Day cream ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม
moisturizer (ครีมเพิ่มความชุ่มชื่น)
แต่ day creamบางชนิดก็อาจเติม whitening
(ครีมปรับสีผิวขาวใส) หรือ sun screen
(ครีมกันแดด) อ่อนๆลงไปด้วย ดังนั้นการใช้ day cream
และ ครีมกันแดดทุกวันนั้น ถูกต้องแล้วครับ
แต่มีบางตำราเขียนไว้ว่า เมื่ออายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป
คนเราจะเริ่มเผชิญกับปัญหาของความแก่ คือ “ริ้วรอยเหี่ยวย่น
” โดยในระยะแรกจะยังไม่รู้ตัวเพราะยังมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เนื่องจาก
collagen ในผิวชั้นหนังแท้ของมนุษย์
จะค่อยๆเริ่มเสื่อมสภาพ และลดลงปีละประมาณ 1% เริ่มตั้งแต่อายุ 25 ปีครับ และผิวหนังบริเวณที่จะฟ้องให้เห็นปัญหาเป็นที่แรก
ก็คือผิว “รอบดวงตา” เพราะเป็นบริเวณที่มีชั้นหนังแท้บางที่สุดของร่างกายครับ
ซึ่งครีมกลุ่มลดริ้วรอยก็จะช่วยลดปัญหานี้
แต่ “ครีมลดริ้วรอย”
ที่ว่านี้ ก็ต้องเป็นครีมที่สามารถลดริ้วรอยเหี่ยวย่นจากปัญหาของชั้นหนังแท้ที่เสื่อมจริงๆ
นะครับ ไม่ใช่ครีมบำรุงหรือ moisturizer ทั่วไป ที่อาจช่วยลดได้เพียงความเหี่ยวที่เกิดจากความแห้งของผิวหนังเท่านั้น
ไม่สามารถช่วยลดปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นจากความเสื่อมของ collagen
และ elastin ในชั้นหนังแท้ที่คนอายุ
25 กำลังต้องเริ่มเผชิญได้จริง
“ครีมลดริ้วรอย”
ที่ว่านี้ เช่น ครีมกลุ่ม “เรตินอล(วิตามินเอ)”
หรือยา “กรดเรติโนอิก(กรดวิตามินเอ)”
อย่างแรกเป็นเครื่องสำอาง แต่อย่างหลังจัดเป็นยา ห้ามผสมในเครื่องสำอาง ต้องใช้โดยผ่านแพทย์
เพราะออกฤทธิ์มากกว่าและระคายเคืองสูงกว่ามาก และหากจะทารอบดวงตา ยิ่งต้องระวังมากขึ้น
ยังมีครีมอื่นที่ช่วยเสริมการรักษาและป้องกันรอยเหี่ยวย่นได้ เช่น ครีมที่ผสมสารแอนตี้ออกซิแดนท์
(ลดสาเหตุริ้วรอยที่เกิดจากอนุมูลอิสระที่มีอยู่ทั่วไปมาทำลายผิว), ครีมกันแดด
(ยังไงก็ต้องใช้ครับ เพราะแสงแดดคือเบอร์ 1 ที่ทำลายผิวชั้นหนังแท้ ทำให้ collagen
และ elastin เสื่อมก่อนวัย) , ครีมบำรุง
(ใช้เพื่อลดรอยเหี่ยวจากความแห้ง และลดอาการแห้งแดงลอก ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากยาทาลดริ้วรอยอื่น)
สรุป :
ถ้าอายุ 26 แล้ว นอกจาก day cream และ ครีมกันแดดแล้ว น่าใช้ eye cream ด้วยครับ
แต่ควรเลือกที่เหมาะกับเรา เช่น ถ้าริ้วรอยไม่มาก แต่มีผิวแห้ง ใช้ครีมกลุ่มเรตินอลก็พอ
แต่ถ้ามีรอยเหี่ยวเห็นชัดแล้ว ทั้งที่อายุแค่ 26 ก็คงต้องเป็นยาครีมกลุ่มกรดเรติโนอิก
โดยต้องระวังอย่างมากเรื่องแห้งแดงลอกโดยเฉพาะผิวรอบตา ให้ใช้ครีมกันแดดและครีมบำรุงชนิดเข้มข้นกันไว้เลย
แต่ถ้าไม่แน่ใจในสภาพผิวของตัวเอง ก็ปรึกษาแพทย์ดีกว่าครับ เพื่อจะได้หนทางที่ปลอดภัย
, สวย , เร็ว , ประหยัด และคุ้มค่าที่สุดครับ
สวัสดีครับ/ค่ะ! ผม/ดิฉันเป็นหมอที่เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์ครับ/ค่ะ ประสบการณ์ของผม/ดิฉันเกี่ยวข้องอย่างแน่นหนากับความตั้งใจในการช่วยเหลือคน และผม/ดิฉันได้ค้นพบทางที่จะใช้พรสวรรค์ทางภาษาของผม/ดิฉันในการทำเช่นนั้น ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของผม/ดิฉันได้เปิดโอกาสให้ผม/ดิฉันไม่เพียงแต่ทำงานกับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังแบ่งปันความรู้และข้อมูลผ่านการเขียนบทความข่าวสาร
ผม/ดิฉันชื่อ Ananda Niran (อนันดา นิรันดร์) และการเดินทางในวงการแพทย์ของผม/ดิฉันเริ่มต้นมานานแล้ว ผม/ดิฉันได้รับการศึกษาที่มหิดลศาสตร์ และตั้งใจที่จะให้ความสุขและความเจริญสบายในสุขภาพกับผู้ป่วย ประสบการณ์การทำงานของผม/ดิฉันรวมถึงการปฏิบัติงานในหลากหลายสถานบริการทางการแพทย์ ที่นั่นผม/ดิฉันมีหน้าที่วินิจฉัย รักษา และดูแลผู้ป่วยที่มีโรคหลากหลาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ผม/ดิฉันเข้าใจว่าสิ่งสำคัญไม่ได้เพียงแค่การช่วยเหลือผู้ป่วยแต่เพิ่มเติมด้วยการกระจายข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มคนใหญ่ ในโลกที่มีข้อมูลทางการแพทย์มากมาย ผม/ดิฉันตัดสินใจที่จะเข้าร่วมมีส่วนร่วมโดยใช้ความรู้และทักษะทางภาษาของผม/ดิฉัน จึงเริ่มเขียนบทความข่าวสารเกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในการแพทย์ โรคต่าง ๆ การป้องกัน และรูปแบบการดำเนินชีวิต
ความหลงไหลในการเขียนช่วยให้ผม/ดิฉันสามารถอธิบายคำศัพท์และความคิดทางการแพทย์ที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ผม/ดิฉันพยายามให้ความสำคัญและรับผิดชอบต่อทุกบทความ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีประโยชน์ ที่สามารถช่วยเหลือคนในการดูแลสุขภาพของตน
พลังประสิทธิ์ของผม/ดิฉันคือที่ทำให้ข้อมูลทางการแพทย์เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนใส่ใจกับความเจริญสุขของตนเอง บทความข่าวสารทุกเรื่องเป็นโอกาสที่จะแบ่งปันความรู้และช่วยเหลือคนที่กำลังมองหาข้อมูลทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ นี่คือเสถียรภาพของผม/ดิฉัน และผม/ดิฉันภาคภูมิใจที่สามารถให้ความช่วยเหลือและแรงบันดาล
ใจในโลกของสายการแพทย์นี้ได้