Glastnost Law & Notary Public-Bar

Glastnost Law & Notary Public-Bar

    ซอยรมณีย์ ตั้งอยู่บนถนนถลางในย่างตึกเก่าในสไตล์ซิโนโปรตุกีส ตึกเก่าสร้างขึ้นในยุคสมัยจังหวัดภูเก็ตมีเหมืองแร่รุ่งเรืองมีคนหลายชนชาติมาพักอาศัย ตึกโบราณเหล่านี้ในปัจจุบันได้ดัดแปลงมาทำร้านค้า และที่อยู่อาศัย

    ตึกเก่าสไตล์ซิโนโปรตุกีสหาชมได้บริเวณ ถนนถลาง, ถนนดีบุก, ถนนเยาวราช เป็นต้น ตึกต่างเจ้าบางทานก็ทำการทาสีใหม่แต่ยังคงลวดลายแบบเก่าเอาไว้ แต่เจ้าของบางทานก็ไม่ทาสีใหม่ต้องการให้คงสภาพเดิมเอาใว้ ท่านที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตสามารถเดินเที่ยวชมเพื่อศึกษาหาความรู้ได้

    Glastnost Law & Notary Public-Bar ร้านแห่งนี้ก็เช่นเดียวกันได้ดัดแปลงทำเป็นร้านค้าแต่ภายในตกแต่งด้วยข้าวของโบราณที่เจ้าของได้สะสมมาเป็นเวลาที่ยาวนาน ด้านในของร้านจัดโต๊ะในสไตล์เพื่อนมาเที่ยวหาเพื่อน เป็นกันเอง ของที่ตกแต่งในร้านหลายท่านอาจยังไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อนก็มีให้ชม ของเก่าที่ประดับภายในร้าน บางชิ้นก็ชำรุดบ้าง บางชิ้นก็คงสภาพดีอยู่ แต่ทุกชิ้นได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี

    ชื่อร้านเป็นชื่อนโยบายเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประธานาธิบดีมิคาเอลโกบาชอฟ สมัยปลายทศวรรษ 1980 Glastnost เป็นภาษารัสเซีย แปลว่า “นโยบายที่โปร่งใส” ท่ามกลางตึกเก่าชิโน – โปรตุกีส ย่านถนนรมณีย์ หลายคนต่างรู้ดีว่า ร้านกาแฟเล็กๆแห่งนี้ วันดีคืนดีก็จะมีธง ประกาศ แผ่นพับ ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่ที่สามารถแสดงเจตนารมณ์และจุดยืน (อันโปร่งใส) ของผู้เป็นเจ้าของ เนื่องด้วยเจ้าของร้านเป็นชาวภูเก็ตแท้ๆ อุปนิสัยจึงเปิดเผยโผงผาง ทุกคำพูด ทุกความคิด ชัดเจน จริงใจ สมกับบุคลิกและชื่อร้านจริงๆ

    ยามสายบรรยากาศสบายๆ ในเวลากลางวันจนถึงบ่าย จวบจนเวลาแห่งพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ที่นี้อาจจะดูหงอยๆบ้างแม้จะมีนักท่องเที่ยวแวะมาขอถ่ายรูป หรือสั่งเครื่องดื่มแก้ร้อน แต่บรรยากาศในร้านก็ยังชักชวนให้แขกที่มาแวะเวียนได้นั่งจิบชา หรือกาแฟ คู่ไปกับขนมพื้นถิ่นภูเก็ต ที่นี่วัตถุดิบทุกอย่างได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี มีเมนูชาและกาแฟ ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ที่เดียว ร้านกาแฟ Glastnost จึงเป็นเหมือนสภากาแฟของคนที่นี่ก็ว่าได้

    แต่เมื่อยามเย็นย่ำค่ำมืดในคืนวันจันทร์ – พุธ – ศุกร์ มาถึง ที่นี้คือแหล่งรวมนักดนตรีแจ๊สและบลูส์ที่นิยมมาร่ายมนต์ให้คนรักชอบในเสียงดนตรียามค่ำได้มานั่งฟังกันอุ่นหนาฝาคั่งเลยทีเดียว คนที่อยากร้อง หรือ อยากบรรเลงก็สามารถเข้ามาร่วมแจมได้เลย เพราะที่นี่เปิดรับทุกคนที่มีใจรักในเสียงเพลง จึงไม่แปลกที่จะเห็นคนที่มาจากหลายชาติต่างที่มา จะมาร่วมบรรเลงดนตรีกัน เพราะดนตรีคือภาษากลางของโลก ไม่แบ่งแยกชนชั้น ไม่แบ่งแยกสีผิว ศาสนาหรือที่มา ซึ่งในบางค่ำคืน อาจจะมีเสียงเพลงเร็กเก้ สกา หรืออาจจะเป็นเพลงเก่า เพลงลูกทุ่งลูกกรุงย้อนยุค เพื่อชีวิตก็มี แล้วแต่ว่าใครสนใจจะเล่นแนวไหน ขอให้รักเสียงเพลงก็พอ และเมื่อฤดูกาลท่องเที่ยวมาถึง ร้านแห่งนี้เองที่เป็นตัวตั้งตัวตีหลัก ในการจัดงานแจ๊สรมณีย์ เทศกาลแห่งดนตรีที่เรียกกันว่า ปิดถนน ปิดซอยเล่นดนตรีกันเลยทีเดียว ร้านนี้เหมาะสำหรับการพบปะผู้คน เพื่อนใหม่ จากเสียงเพลง ซอยรมณีย์ไม่เคยเหงา เพราะเสียงจาก “Glastnost”ร้านเล็กๆ แต่ใจคนไม่เล็กเลย