ตุ๊ก-ตุ๊ก-ผับ ในความธรรมดาที่สุดแสนคลาสสิค

ตุ๊ก-ตุ๊ก-ผับ ในความธรรมดาที่สุดแสนคลาสสิค

     ตุ๊ก..ตุ๊ก เป็นคำเรียกรถโดยสารยอดนิยมชนิดหนึ่งในเมืองไทย ที่รูปทรงอาจจะต่างกันในแต่ละพื้นที่ แต่เป็นที่รู้จักและชอบใจในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและเทศ มาเป็นเวลาช้านาน วันนี้…เราไม่ได้ชวนคุณๆมาขึ้นรถตุ๊กตุ๊กกันหรอกหรอกนะคะ

     แต่เรากำลังจะพาไปสัมผัสร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร ที่นอกจากจะเป็น กึ่งผับ กึ่งร้านอาหารแล้ว ณที่นี้ยังผสานผสมศิลปะการวาดภาพไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

     2 ธันวาคม 2552  
ณ หัวมุมถนนสามเสน  ซอย1  ร้านอาหารกึ่งแกลเลอรีแสดงงานศิลปะ ถือกำเนิดขึ้นภายใต้ชื่อเก๋ไก๋ว่า “ตุ๊กตุ๊กผับ” รับกับอาคารรูปทรงแปลกตา   ด้วยอาคารไม้เก่าที่เดิมเป็นร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ถูกตกแต่งทาสีขาวสลับดำเสมือนทางม้าลาย หรือฟุตบาทที่อนุญาตให้จอดยานยนต์ได้

ผนังทั้งสามด้านไม่ได้กรุด้วยวัสดุกระจกเหมือนทั่วไป หากแต่เป็นการวางแผนอย่างชาญฉลาดของเจ้าของที่จงใจใช้แผ่นผ้าใบพลาสติกใสแจ๋วแทน ทำให้เวลามองเข้าไปด้านในแล้ว ให้บรรยากาศเหมือนฤดูหนาวที่หิมะกำลังตก ด้วยเพราะประกายแสงไฟที่ตกกระทบลอนคลื่นบนผ้าใบนั่นเอง  ประตูที่นี่เปิดได้อย่างสบายๆเพราะน้ำหนักเบา 

    เหลียวมององค์ประกอบการออกแบบตกแต่งภายใน…จะเห็นได้ว่าจัดวางไว้อย่างโปร่งหลวม ให้ความรู้สึกสบายๆแก่ผู้ที่มาดื่มกิน  ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินกับการสังเกตอยู่นั้น อาจารย์สุชาติ วงษ์ทอง เจ้าของร้านผู้เป็นทั้งอาจารย์สอนศิลปะ และเป็นศิลปินภาพวาดสีน้ำที่โด่งดังระดับนานาชาติ ออกมาต้อนรับเราอย่างเป็นกันเอง ด้วยบุคลิกสบาย ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปิน และเจ้าของร้านท่านนี้

“ที่นี่เราเน้นตกแต่งสีขาว-ดำ ตั้งแต่ภายนอกยันภายใน ด้านล่างเป็นร้านอาหาร นั่งฟังเพลงไป ส่วนด้านบนไว้แสดงภาพวาดสีน้ำที่คงหมุนเวียนมาให้ชมกันเรื่อยๆเป็นระยะๆ”

      และสิ่งที่สะดุดตาแปลกกว่าที่อื่น ก็คงเป็นภาพวาดรถตุ๊กตุ๊กหลากหลายมุมมอง ที่ประดับตามผนังตั้งแต่ระดับสายตาถึงระดับล่าง มีทั้งภาพขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก ซึ่งล้วนเป็นฝีมือจิตรกรสีน้ำมือรางวัลท่านนี้ทั้งสิ้นทุกภาพ

   

      ระหว่างรออาหารมื้อค่ำง่ายๆ สไตล์มังสวิรัติ อาจารย์เชื้อเชิญให้ขึ้นไปที่ชั้นสองซึ่งได้แบ่งเป็นห้องครัวและแกลเลอรี สิ่งที่ปรากฏแก่สายตา คือภาพวาดเครื่องดนตรีทั้งดีดสีเป่า เรียงรายอยู่บนผนังตั้งแต่ทางขึ้นให้ได้ชื่นชม ภายในห้องแสดงภาพมีโต๊ะซึ่งถูกคลุมด้วยผ้าสีดำ วางวัตถุหุ้มด้วยถุงดำทรงกลมแบบเบี้ยวๆ ตรงกลางมีกรวยกระดาษดำที่ถูกแต้มด้วยสีขาว เป็นรูปดาว2 ดวง กับจันทร์เสี้ยวหงาย

     “ร้านนี้เปิดในวันที่มีพระจันทร์ยิ้ม ผมเลยทำเป็นสัญลักษณ์ไว้” อาจารย์กล่าวพลางหัวเราะพลาง

     เราขอถ่ายรูปอาจารย์และแกลเลอรีไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย! ระลึกเสร็จ  ก็ลงมาถ่ายบรรยากาศด้านล่าง และด้านนอกเพื่อมาอวดให้เพื่อนๆนักอ่านได้ชื่นชมกัน

      เมนูเด่นที่นี่มีหลายอย่าง แต่เพราะเราเป็นนักนิยมบริโภคผักมากกว่า เลยได้ภาพหน้าตาอาหารง่ายๆที่รสชาติอร่อยๆแบบสบายๆท้องมาอวดกัน
หากคุณ ๆ ได้เยือนกรุงเทพคราวหน้า ลองหาโอกาสไปสัมผัส ตุ๊กตุ๊กผับ ด้วยตัวเองซักครั้ง เส้นทางจากแบงค์ชาติเรื่อยมาทางบางลำพู มองด้านขวามือเอาไว้ ร้านขาวดำใสๆ นั่นไง “ตุ๊กตุ๊กผับ” (โทรศัพท์ 08-9107-2380)
ข่าวดี สำหรับใครที่กำลังมองหาภาพวาดที่มีเอกลักษณ์ไปประดับบ้านหรือร้านค้าของตัวเอง สามารถเลือกชมและเป็นเจ้าของได้ที่ “ตุ๊กตุ๊กผับ” โดยไม่ต้องไปประมูลกันในงานให้เสียเวลา   

ที่มา : นิตยสารภูเก็ตบูลเลทินVol.7 No.82 March 2009