ตามรอย แต่งงาน ตามสไตล์บาบ๋าภูเก็ต
เด็กผู้หญิงภูเก็ตในสมัยก่อนเมื่ออายุครบ 12 ปี แล้วจะเก็บตัวอยู่ในบ้านไม่สามารถออกไปพบใครๆ ได้เลย ญาติผู้ใหญ่จะไม่ให้ออกมาเที่ยวเล่นนอกบ้านอยู่เพราะถือว่าเข้าสู่วัยสาวแล้ว จะต้องได้รับการอบรมสั่งสอนเรื่องการบ้านการเรือน การทำกับข้าว ตัดเย็บเสื้อผ้า พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นภรรยาเมื่อได้ออกเรือน เมื่อสาวๆ ถูกเก็บตัวผู้ชายไม่ค่อยได้พบลูกสาวบ้านใดง่ายๆ การแต่งงานจึงต้องผ่านคนกลางคือแม่สื่อหรืออึ่มหลาง เป็นผู้ทำหน้าที่จับคู่ให้กับชายหญิง ผู้ทำหน้าที่นี้ไม่ใช่ว่าใครๆ จะทำได้ เพราะต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติพิเศษ ในการพูดจาหว่านล้อมให้ฝ่ายพ่อแม่เจ้าสาวหรือฝ่ายพ่อแม่เจ้าบ่าวตกลงให้ทั้งคู่แต่งงานกันได้ อึ่มหลางจะต้องเป็นผู้มีวาทศิลป์ในการพูดโน้มน้าวจิตใจให้เกิดการยอมรับจากทั้ง 2 ฝ่ายหรือกรณีลูกสาวหรือลูกชายบ้านใด มีอายุมากแล้วยังไม่ได้แต่งงานพ่อแม่ก็จะบอกอึ่มหลาง ให้หาผู้ชายดี (โฮเกี๋ยะ) หรือผู้หญิงที่ดีๆ มีคุณสมบัติเพียบพร้อมมาให้ลูกบ่าวหรือลูกสาวของตน ถ้าเจรจาสำเร็จไม่ว่าจะเป็นพิธีการใด อึ่มหลางจะต้องได้รับอั่งเปา และขาหมูอย่างดี 1 ขา (ขาหลัง) นอกจากนี้คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งที่ถือกันมากในกลุ่มชาวจีนฮกเกี้ยนคือจะไม่แต่งงานในกลุ่มแซ่เดียวกัน
การจัดงานแต่งงานถือเป็นงานมงคลสำคัญในชีวิตของเจ้าบ่าวเจ้าสาว และชาวภูเก็ตถือว่าการที่สามารถเลี้ยงลูกจนได้แต่งงาน ถือเป็นความสำเร็จของพ่อแม่อย่างหนึ่ง ฉะนั้นถ้าบ้านลูกสาวได้แต่งงานต้องประกาศให้คนได้รับรู้ เมื่อทางฝ่ายผู้ชายและฝ่ายผู้หญิงตกลงใจตามที่อึ่มหลางเสนอ อึ่มหลางหรือญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวจะไปถามเรื่องปีวันของทั้งสองฝ่ายว่าสมพงษ์กันมากน้อยเพียงใด อาจจะไปที่วัดไทยหรือศาลเจ้าจีนก็ได้ เมื่อการทำนายทำนายว่าดี เหมาะสมจะทำให้เจริญ มีโชคลาภ เป็นเนื้อคู่ที่แท้จริง อึ่มหลางก็จะมาฟังข่าวและนำไปบอกฝ่ายเจ้าสาวให้เตรียมตัวกำหนดวันที่จะแลกแหวนและแต่งงาน ในพิธีแลกแหวน อึ่มหลางและฝ่ายเจ้าสาวหาฤกษ์แต่งงานและกำหนดวันแต่งงาน การกำหนดวันก็ถือตามธรรมเนียมไทยคือจะแต่งในเดือนมงคลเช่นเดือนหก เดือนเก้า เดือนสิบสอง ในระยะที่ก่อนถึงวันแต่งงานเจ้าสาวจะเตรียมที่นอน หมอน มุ้ง ดอกไม้ประดับห้องเจ้าสาวและเครื่องใช้ต่างๆ ที่เตรียมไว้ล่วงหน้าเพราะห้องเจ้าสาวจะเป็นห้องที่สวยที่สุดของบ้าน ทุกคนที่มาในงานจะต้องมาดูห้องเจ้าสาว เจ้าสาวต้องเปิดให้ทุกคนที่มาร่วมงานเข้าชมห้องได้ล่วงหน้าอย่างน้อยสามวันก่อนการแต่งงาน
วันแต่งงานของคู่บ่าวสาวบาบ๋า
ประเพณีเริ่มจากบ้านเจ้าบ่าว ก่อนเจ้าบ้านจะออกจากบ้านจะต้องมีการจุดประทัด จากนั้นขบวนเจ้าบ่าวจะเดินทางไปบ้านเจ้าสาว ถ้าบ้านเจ้าบ่าวห่างจากบ้านเจ้าสาวมากก็จะใช้พาหนะ เช่น ลังเฉี้ย(รถลากแบบจีน) หรือรถเก๋ง ถ้าเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวบ้านใกล้กัน เจ้าบ่าวอาจจะนำขบวนเดินจากบ้านเจ้าบ่าวมาบ้านเจ้าสาว ขบวนเจ้าบ่าวจะมีญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวเป็นผู้ถือขันหมากนำหน้าขบวนถัดมาเป็นเจ้าบ่าวและอึ่มหลาง ตามด้วยผู้ถือเสี่ยหนา 2 ใบ (ปิ่นโตจักสานจากไม้ไผ่ ทาสีสวยงาม) ใบหนึ่งบรรจุธูปเทียนและอีกใบหนึ่งบรรจุชุดน้ำชาเมื่อถึงบ้านเจ้าสาวจะมีการจุดประทัดรับเจ้าบ่าวที่หน้าบ้านเจ้าสาว แล้วนำเจ้าบ่าวเข้าบ้าน
เจ้าบ่าวเดินเข้าบ้านเจ้าสาว ญาติฝ่ายเจ้าสาวจัดเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงมารอรับโดยถือพานบุหรี่ 1 คู่ เจ้าบ่าวรับบุหรี่แล้วยื่นอั่งเปาให้แก่เด็กทั้งสอง ญาติฝ่ายเจ้าสาวเชื้อเชิญเจ้าบ่าวและญาติฝ่ายเจ้าบ่าวเข้ามาในบ้าน อึ่มหลางนำเจ้าบ่าวเข้าบ้าน อึ่มหลางหรือญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวจะส่งขันหมากให้แม่เจ้าสาว ภายในขันหมากประกอบด้วยหมากพลู 15 คำ ถุงเงินถุงทอง 12 บาท ดอกรักและดอกดาวเรือง หลังจากนั้นเพื่อนเจ้าบ่าวจะส่งเสี่ยหนาให้อึ่มหลาง (เสี่ยหนาขนาด 2 ชั้น บรรจุน้ำชา 5 รส หมายถึงความรักของบ่าวสาวให้ยั่งยืนตลอดไป) อึ่งหลางจะเป็นผู้ส่งเสี่ยหนาให้กับญาติเจ้าสาวและจะต้องพูดว่า “เสี่ยหนานี้บรรจุน้ำชา 5 รส ซึ่งหมายถึงให้ความรักของคู่บ่าวสาวยั่งยืนตลอดไป”
เมื่อได้ฤกษ์งามยามดีแล้ว อึ่มหลางนำเจ้าบ่าวเข้าไปรับเจ้าสาวข้างในห้อง โดยมีเพื่อนเจ้าบ่าว ญาติผู้ใหญ่เดินตามเข้าไปในบ้าน เจ้าสาวนั่งอยู่ด้วย อึ่มหลางแนะนำ นี่คือเจ้าสาวของตน เจ้าสาวลุกขึ้นยืนคารวะซึ่งกันและกัน เจ้าบ่าวจะยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เจ้าสาว เจ้าสาวรับผ้าเช็ดหน้าแล้วลุกขึ้นยืน เจ้าบ่าวนำเจ้าสาวออกมาจากห้อง จากนั้นทั้งคู่จะมาไหว้เทวดาที่หน้าบ้าน ขณะที่ไหว้เทวดา เจ้าบ่าวจะอยู่ทางซ้ายมือของเจ้าสาว ทั้งนี้เพราะชาวจีนถือว่ามือซ้ายซึ่งเป็นมือที่ถือถ้วยข้าว เป็นใหญ่กว่ามือขวาที่ถือตะเกียบ เมื่อไหว้เทวดาเสร็จ เพื่อนเจ้าบ่าวรับธูปไปปักและจุดธูปให้บ่าวสาวอีกคนละ 3 ดอกเพื่อไหว้พระในบ้าน จากนั้นพ่อแม่เจ้าสาวเดินนำบ่าวสาวไปไหว้บรรพบุรุษ โดยเพื่อนเจ้าบ่าวจุดธูปให้เจ้าบ่าว เจ้าสาวอีกคนละ 3 ดอก หลังจากไหว้เทวดาที่หน้าบ้าน ไหว้พระในบ้าน ต่อด้วยไหว้บรรพบุรุษ จะเป็นพิธีไหว้พ่อแม่เจ้าสาว และญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว หรือเรียกว่าพิธีผ่างเต๋ ซึ่งคุณพ่อนั่งทางซ้าย คุณแม่นั่งทางขวา เจ้าบ่าวเจ้าสาวไหว้พ่อแม่ พร้อมกัน เพื่อนเจ้าบ่าวยื่นถ้วยน้ำชาให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวคารวะ คุณพ่อคุณแม่รับไหว้ด้วยการยกถ้วยน้ำชาขึ้นดื่ม พร้อมวางซองอั่งเปา หรือของมีค่าอื่นๆ เช่นโฉนดที่ดิน เพชร ทอง ลงในถาดน้ำชา เพื่อเจ้าบ่าวจะบอกแก่คนทั่วไปว่าพ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาวให้อะไรบ้าง จากนั้นก็ไหว้อาแป๊ะ อาอึ้ม พี่เจ้าสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน เจ้าบ่าว เจ้าสาวจะส่งผ้าคู่ให้พี่เจ้าสาว อึ่มหลางเชิญคุณพ่อคุณแม่เจ้าสาวส่งเจ้าขึ้นรถแล้วเชิญทุกคนร่วมงานเลี้ยง เจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นรถลาก หรือรถเก๋ง ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่อ๊ามปุดจ้อตามประเพณีนิยม พร้อมด้วยญาติผู้ใหญ่ของเจ้าบ่าวเจ้าสาว พิธีกรรมในอ๊าม เพื่อนเจ้าบ่าวจุดเทียนจุดธูปให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวคนละ 3 ดอก อึ่มหลาง เจ้าบ่าวและเจ้าสาวออกจากอ๊ามเพื่อไปรับไหว้ที่บ้านเจ้าบ่าวต่อไป เป็นอันเสร็จพิธีวันแต่งงาน
เรื่องอื่น ๆ
สวัสดีครับ/ค่ะ! ผม/ดิฉันเป็นหมอที่เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์ครับ/ค่ะ ประสบการณ์ของผม/ดิฉันเกี่ยวข้องอย่างแน่นหนากับความตั้งใจในการช่วยเหลือคน และผม/ดิฉันได้ค้นพบทางที่จะใช้พรสวรรค์ทางภาษาของผม/ดิฉันในการทำเช่นนั้น ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของผม/ดิฉันได้เปิดโอกาสให้ผม/ดิฉันไม่เพียงแต่ทำงานกับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังแบ่งปันความรู้และข้อมูลผ่านการเขียนบทความข่าวสาร
ผม/ดิฉันชื่อ Ananda Niran (อนันดา นิรันดร์) และการเดินทางในวงการแพทย์ของผม/ดิฉันเริ่มต้นมานานแล้ว ผม/ดิฉันได้รับการศึกษาที่มหิดลศาสตร์ และตั้งใจที่จะให้ความสุขและความเจริญสบายในสุขภาพกับผู้ป่วย ประสบการณ์การทำงานของผม/ดิฉันรวมถึงการปฏิบัติงานในหลากหลายสถานบริการทางการแพทย์ ที่นั่นผม/ดิฉันมีหน้าที่วินิจฉัย รักษา และดูแลผู้ป่วยที่มีโรคหลากหลาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ผม/ดิฉันเข้าใจว่าสิ่งสำคัญไม่ได้เพียงแค่การช่วยเหลือผู้ป่วยแต่เพิ่มเติมด้วยการกระจายข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มคนใหญ่ ในโลกที่มีข้อมูลทางการแพทย์มากมาย ผม/ดิฉันตัดสินใจที่จะเข้าร่วมมีส่วนร่วมโดยใช้ความรู้และทักษะทางภาษาของผม/ดิฉัน จึงเริ่มเขียนบทความข่าวสารเกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในการแพทย์ โรคต่าง ๆ การป้องกัน และรูปแบบการดำเนินชีวิต
ความหลงไหลในการเขียนช่วยให้ผม/ดิฉันสามารถอธิบายคำศัพท์และความคิดทางการแพทย์ที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ผม/ดิฉันพยายามให้ความสำคัญและรับผิดชอบต่อทุกบทความ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีประโยชน์ ที่สามารถช่วยเหลือคนในการดูแลสุขภาพของตน
พลังประสิทธิ์ของผม/ดิฉันคือที่ทำให้ข้อมูลทางการแพทย์เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนใส่ใจกับความเจริญสุขของตนเอง บทความข่าวสารทุกเรื่องเป็นโอกาสที่จะแบ่งปันความรู้และช่วยเหลือคนที่กำลังมองหาข้อมูลทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ นี่คือเสถียรภาพของผม/ดิฉัน และผม/ดิฉันภาคภูมิใจที่สามารถให้ความช่วยเหลือและแรงบันดาล
ใจในโลกของสายการแพทย์นี้ได้