แม้สีสันของฟุตบอลยูโร 2008 จะลาจอไปนานแล้ว แต่สำหรับแฟนบอลชาวไทยก็คงจะไม่เงียบเหงากันนานนัก เพราะถึงฟุตบอลแมตซ์ใหญ่ๆ จะจบลงไป แต่ก็ยังมีเทปบันทึกภาพการแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญๆ ต่างๆ ถ่ายทอดให้คอฟุตบอลชาวไทยทั้งหลายได้รับชมกันอยู่เรื่อยๆ และก็ทุกครั้งทุกคราเช่นกันที่มีการจัดแมตซ์ฟุตบอลถ่ายทอดออกอากาศ ปัญหาที่ตามมาของการชมฟุตบอลก็คือเรื่องของ “ การพนัน” ที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้งบนหน้าหนังสือพิมพ์
จะด้วยเหตุผลเพราะชอบดูลีลาการเล่นของนักฟุตบอลทีมโปรด , นักฟุตบอลหน้าตาดี หรืออะไรก็ตามแต่ที่ทำให้กลุ่มคนจำนวนมากชื่นชอบการชมฟุตบอล แต่ที่แน่ๆ กลุ่มคนที่มักเกิดปัญหาเรื่องการพนันฟุตบอลมากที่สุด ก็ยังหนีไม่พ้น “ กลุ่มเยาวชน” นั่นเอง (อ้างอิงจากข้อมูลของสถาบันรามจิตติ) เมื่อมีข้อมูลที่ระบุถึงกลุ่มเยาวชนชัดเจนอย่างนี้ แล้วพวกเขาจะมีความเห็นอย่างไรกันบ้าง
เริ่มจาก สงค์ อายุ 22 ปี กล่าวว่า ผมเห็นด้วยนะครับที่บอกว่ากลุ่มวัยรุ่นเป็นกลุ่มที่มีการเล่นพนันบอลมากที่สุด เพราะเป็นธรรมดาที่วัยรุ่นมักจะอยากรู้อยากลอง ถ้าได้ครั้งหนึ่งแล้วก็อยากเล่นอีกหรือไม่ได้ก็อยากจะเล่นให้ได้โดยไม่ได้คิดถึงผลเสียที่ตามมา ผมมีเพื่อนที่เล่นการพนันจนเกือบหมดตัว แถมยังมีหนี้มีสิน ทุกวันนี้เขายังต้องหลบหนีการทวงเงินของเจ้าหนี้จนเสียอนาคตไปเลย ก็เลยอยากบอกกับเพื่อนๆ ว่า ถ้าอยากดูฟุตบอลก็ควรดูเพื่อความสนุกสนานดีกว่า หรือถ้าใครที่ชอบเล่นฟุตบอลอยู่แล้ว ก็ใช้การดูฟุตบอลแต่ละแมตซ์เป็นการเรียนรู้ทักษะการเล่นไปด้วย เพราะถ้าเราดูฟุตบอลแล้วมีเรื่องการพนันเข้ามาเกี่ยว จะมีผลเสียที่สร้างความเดือดร้อนตามมาอีกมากมาย
ซอ อายุ 23 ปี พูดถึงปัญหาการพนันฟุตบอลว่า ถ้าให้แบ่งสัดส่วนของคนดูฟุตบอลว่ามีคนเล่นพนันกับคนไม่เล่นพนันประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ ผมคิดว่า 80% น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ดูฟุตบอลแบบมีการพนันเข้ามาเกี่ยว เพราะว่าเรื่องของความโลภมันไม่เข้าใครออกใคร แล้วตัวเงินมันก็ทำให้เกิดความโลภ ตอนได้ก็หลงระเริง ตอนเสียก็หน้ามืดอยากแก้มือ โดยไม่รู้ว่าได้มาครั้งหนึ่งเท่าไหร่ แล้วต้องเสียไปอีกมากแค่ไหน”
“แต่ถ้าอยากให้การพนันฟุตบอลหายไปจากสังคมไทยนั้น ผมมองว่า คงเป็นเรื่องยากมาก หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ตราบใดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผู้มีอิทธิพลยังคงอยู่เบื้องหลังโต๊ะพนันบอลรายใหญ่ต่างๆ เพราะถึงจับกุมโต๊ะบอลรายเล็กรายน้อยได้ แต่ตัวการใหญ่ยังอยู่ผมคิดว่า ปัญหาโต๊ะบอลหรือการเล่นพนันบอลก็คงไม่มีทางหมดไปได้เสียที
อ๊อฟ อายุ 20 ปี บอกว่า อย่างในช่วงฟุตบอลยูโรที่จบลงไปแล้ว ก็จะเห็นได้ว่า แม้ว่าทางบริษัท ห้างร้านต่างๆ จะจัดให้มีการลุ้นโชคทายผลฟุตบอลอย่างถูกกฎหมาย อย่างเช่น ส่งไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอล , ตอบคำถามผ่านทาง sms , ส่งชิ้นส่วนลุ้นโชคชิงรางวัล แต่ก็จะเห็นได้ว่า ปัญหาที่ตามมาจากการพนัน อย่างการลักขโมยหรืออาชญากรรมก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป ส่วนตัวแล้วผมมองว่า การทายผลฟุตบอลอย่างถูกกฎหมายต่างๆ ที่มี มันก็แค่อีกทางหนึ่งสำหรับให้คนลุ้นเงินเท่านั้น คนส่งทายผลก็ส่งกันไป แต่คนเล่นการพนันเค้าก็ยังเล่นอยู่เหมือนเดิม เพราะเล่นกับโต๊ะพนันมันได้ลุ้นกันนัดต่อนัด บอลจบจะได้หรือเสียก็รู้กันนัดนั้น แต่การส่งทายผลหรือชิงโชคต่างๆ มันก็แค่ลุ้นว่าใครเป็นแชมป์ แล้วถ้าเราทายถูกมันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้รางวัล ต้องมาลุ้นกันอีกว่าใครชนะ แล้วก็ต้องลุ้นว่าจะจับรางวัลได้ชื่อตัวเองหรือเปล่า แต่ถ้าพนันบอลมันลุ้นแค่ใครชนะ พอจบได้หรือเสียก็รู้กันเลย
ทางที่ดีผมว่าการกวาดล้างโต๊ะพนันบอลน่าจะเป็นการแก้ไขได้ที่ต้นเหตุนะ อย่ามาแก้กันปลายเหตุที่คนเล่นเลย เพราะการพนันมันเป็นสิ่งที่ห้ามยาก จะว่าอยู่ในสายเลือดของสังคมก็ว่าได้ ทั้งพนันบอล หวย ไพ่ หุ้น และอีกมากมาย ถ้าแก้ที่ต้นเหตุได้น่าจะดีกว่า เพราะถึงการพนันจะไม่ทำให้ใครรวยแต่ก็ไม่ทำให้ใครเข็ดเหมือนกัน อยู่ที่ว่าคนเล่นจะมีสติมากแค่ไหนในการเล่นเท่านั้นเอง
ขณะที่ นุ่น อายุ 19 ปี เล่าว่า นุ่นเองก็เคยเล่นพนันบอลเหมือนกัน เพราะเราอยู่ในกลุ่มที่มีเพื่อนผู้ชายเยอะเค้าก็มาชวน ตอนแรกกะจะลองเล่นคู่เดียว แต่เพื่อนบอกว่าที่โต๊ะบอลเขาให้เล่นอย่างต่ำ 3 คู่ ซึ่งหมายความว่าถ้าเรามีสิทธิ์ได้เงินนั้น เราจะต้องแทงให้ถูกทุกคู่ ถ้าผิดคู่ใดคู่หนึ่งก็ไม่ได้เงิน แต่ถ้าถูกทุกคู่เราก็จะได้เงินเยอะกว่าทุนที่ลงไปหลายเท่าตัว
แต่ครั้งนั้นนุ่นเล่นแล้วเสียก็เลยเลิกเล่นไปเลย เพราะตอนนั้นเราแค่อยากลอง หลังๆ มานี้ก็แค่ดูฟุตบอลแล้วก็พนันกับเพื่อนเล่นๆ ว่าถ้าใครทายผิดจะต้องเลี้ยงข้าว คนทายถูกกินฟรี อย่างนี้มากกว่า ได้ทั้งความสนุกแถมไม่ต้องเสี่ยงโดนตำรวจจับด้วยเพื่อนๆ จะเอาอย่างนุ่นก็ได้นะ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ค่ะ
แต่ที่สำคัญ เราก็ควรชมและเชียร์ฟุตบอลให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมด้วย ต้องมีสติและคำนึงถึงภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของตัวเอง อย่าให้ความสนุกจากการแข่งขันมาทำให้เราเกิดความทุกข์ใจในภายหลัง นุ่นกล่าวทิ้งท้าย
สวัสดีครับ/ค่ะ! ผม/ดิฉันเป็นหมอที่เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์ครับ/ค่ะ ประสบการณ์ของผม/ดิฉันเกี่ยวข้องอย่างแน่นหนากับความตั้งใจในการช่วยเหลือคน และผม/ดิฉันได้ค้นพบทางที่จะใช้พรสวรรค์ทางภาษาของผม/ดิฉันในการทำเช่นนั้น ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของผม/ดิฉันได้เปิดโอกาสให้ผม/ดิฉันไม่เพียงแต่ทำงานกับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังแบ่งปันความรู้และข้อมูลผ่านการเขียนบทความข่าวสาร
ผม/ดิฉันชื่อ Ananda Niran (อนันดา นิรันดร์) และการเดินทางในวงการแพทย์ของผม/ดิฉันเริ่มต้นมานานแล้ว ผม/ดิฉันได้รับการศึกษาที่มหิดลศาสตร์ และตั้งใจที่จะให้ความสุขและความเจริญสบายในสุขภาพกับผู้ป่วย ประสบการณ์การทำงานของผม/ดิฉันรวมถึงการปฏิบัติงานในหลากหลายสถานบริการทางการแพทย์ ที่นั่นผม/ดิฉันมีหน้าที่วินิจฉัย รักษา และดูแลผู้ป่วยที่มีโรคหลากหลาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ผม/ดิฉันเข้าใจว่าสิ่งสำคัญไม่ได้เพียงแค่การช่วยเหลือผู้ป่วยแต่เพิ่มเติมด้วยการกระจายข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มคนใหญ่ ในโลกที่มีข้อมูลทางการแพทย์มากมาย ผม/ดิฉันตัดสินใจที่จะเข้าร่วมมีส่วนร่วมโดยใช้ความรู้และทักษะทางภาษาของผม/ดิฉัน จึงเริ่มเขียนบทความข่าวสารเกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในการแพทย์ โรคต่าง ๆ การป้องกัน และรูปแบบการดำเนินชีวิต
ความหลงไหลในการเขียนช่วยให้ผม/ดิฉันสามารถอธิบายคำศัพท์และความคิดทางการแพทย์ที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ผม/ดิฉันพยายามให้ความสำคัญและรับผิดชอบต่อทุกบทความ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีประโยชน์ ที่สามารถช่วยเหลือคนในการดูแลสุขภาพของตน
พลังประสิทธิ์ของผม/ดิฉันคือที่ทำให้ข้อมูลทางการแพทย์เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนใส่ใจกับความเจริญสุขของตนเอง บทความข่าวสารทุกเรื่องเป็นโอกาสที่จะแบ่งปันความรู้และช่วยเหลือคนที่กำลังมองหาข้อมูลทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ นี่คือเสถียรภาพของผม/ดิฉัน และผม/ดิฉันภาคภูมิใจที่สามารถให้ความช่วยเหลือและแรงบันดาล
ใจในโลกของสายการแพทย์นี้ได้