จากข่าวสลดใจ
เรื่องราวของอาจารย์สาวเอแบค อดีตดาวคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คิดสั้น กระโดดตึกจากชั้น 10 ของตึกเอ็มไพร์ ทาวเวอร์
ลงมาฆ่าตัวตายอันเนื่องมาจากผิดหวังในความรักนั้น หลายคนที่ทราบข่าว
ก็คงมีหลายคำถามในใจว่า ทำไมคนที่ทั้งสวย รวย และเก่งเช่นนี้
ถึงคิดสั้น วันนี้เราลองมาฟังความเห็นของน้องๆ นักศึกษากันดูสิว่าพวกเขามีความคิดเห็นกันอย่างไรเกี่ยวกับข่าวนี้
และถ้าเป็นพวกเขา พวกเขาจะหาทางออกกันอย่างไร แล้วความรักในวัยเรียนเป็นสิ่งที่ไปด้วยกันได้หรือไม่
เริ่มที่ “น้องกวาง”
เยาวลักษณ์ กิติภัทรภูมิกุล อายุ 23 ปี บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
กล่าวว่า พอรู้ข่าวครั้งแรก
ก็รู้สึกสลดใจน่ะค่ะ แล้วก็คิดว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น
ไม่คิดถึงครอบครัวบ้างเหรอ อาจเป็นเพราะว่าเขาจริงจังกับความรักมากเกินไป
พอเกิดผิดหวังขึ้นมา อยู่กับตัวเองมากเกินไป ก็เลยอาจฟุ้งซ่าน
เลยตัดสินใจคิดสั้น
ถ้าเกิดเป็นหนูแล้วผิดหวังในความรักขึ้นมาจะทำอย่างไรเหรอ?
ก็จะหาทางออกโดยการอยู่กับเพื่อนๆ อยู่กับพ่อแม่ ครอบครัว
หรือไม่ก็ไปออกกำลังกายเล่นกีฬา หรือไปเที่ยวให้ลืมๆไปเลยค่ะ
ถ้าถามว่าคิดอย่างไรกับความรักในวัยเรียน?
จริงๆ หนูว่าความรักเป็นเรื่องที่ดีนะคะ ถึงจะอยู่ในวัยเรียนก็มีความรักได้
แต่อย่าจริงจังมากเกินไป ช่วยกันเรียน ช่วยให้กำลังใจกัน
น่าจะดีที่สุดค่ะ
ถัดมา “น้องจูน”
จรัสศรี เชษฐพันธ์ อายุ 20 ปี นักศึกษาปีที่สอง จากคณะอักษรศาสตร์
มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ได้ยินข่าวก็รู้สึกสลดใจน่ะค่ะ
คิดว่าเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบมากกว่า คิดว่าเขาคงจริงจังกับความรักมากเกินไป
ไม่น่าหาทางออกอย่างนั้นเลย น่าจะคิดให้มากกว่านี้
สำหรับหนูมองว่าถ้าใครที่กำลังผิดหวังกับความรักอยู่
ก็ควรจะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆ หรือไม่ก็ครอบครัว อย่าอยู่คนเดียว
หาอะไรทำที่เป็นประโยชน์ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน และไม่หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องที่ผิดหวังเสียใจ
ที่จริงแล้วความรักเป็นสิ่งที่ดีนะคะ
แม้ว่าจะอยู่ในวัยเรียนก็สามารถที่จะมีความรักได้ ช่วยกันเรียน
ช่วยเป็นกำลังใจให้กันและกันจะดีกว่าค่ะ
สาวอีกคน “น้องก้อย”
กรวิการ์ ดำมุณี อายุ 20 ปี นักศึกษาปีที่ 2 คณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต
กล่าวว่า ได้ยินข่าวก็รู้สึกตกใจค่ะ
คิดว่า หืม! ขนาดต้องคิดสั้นฆ่าตัวตายเลยเหรอ ทั้งที่สวยและก็เก่งขนาดนั้น
ทำไมผู้ชายคนหนึ่งถึงมีอิทธิพลกับคนๆ หนึ่งมากมายขนาดนี้ด้วย
หนูคิดว่าตอนนั้นเขาคงเครียดมากน่ะค่ะ ไม่คิดถึงอย่างอื่นแล้ว
คิดถึงแต่เรื่องของตัวเองที่ผิดหวังจากผู้ชายคนนั้น
สำหรับหนูถ้าเกิดมีปัญหาแบบนี้
คิดว่าก็คงจะต้องคุยกันก่อนเป็นอันดับแรก หาสาเหตุถึงปัญหา
ถ้าคุยแล้วไม่รู้เรื่องก็คงต้องจบล่ะค่ะ คงไม่ยื้อไว้
เป็นธรรมดาที่คนเราเวลาผิดหวังจะรู้สึกท้อแท้ ไร้คุณค่า
แต่ก็ควรหาทางออกที่ดีกว่าการคิดสั้น เช่น การอยู่กับเพื่อนฝูง
การไปเที่ยวหลีกหนีจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ สักพัก
ถ้าถามว่าเรื่องความรักในวัยเรียนไปด้วยกันได้ไหม?
หนูว่าก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่มันก็เหมือนดาบสองคมเหมือนกัน
ถ้าเราคบกับใครแล้วช่วยกันเรียน ช่วยให้กำลังใจกัน มันก็เป็นสิ่งที่ดี
แต่ถ้าเราคบใครแล้วพากันเที่ยว ไม่ช่วยตักเตือนกัน การเรียนก็จะเสียหายได้ค่ะ
ฟังความเห็นสาวๆ กันมามากแล้ว
คราวนี้ลองมาฟังความเห็นของหนุ่มคนเดียวในที่นี้กันบ้างดีกว่า
“หนึ่ง”
ธีรยุทธ ทองเกิด อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1
วิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต กล่าวว่า เห็นข่าวก็สลดใจครับ
คิดว่าทำไมนะทั้งที่เขาหน้าตาก็ดี มีฐานะ มีพร้อมแทบจะทุกอย่าง
แต่กลับมาจบชีวิตลงด้วยเรื่องความรักเพียงเรื่องเดียว
ผมว่านะอย่างพี่เขานี่มีโอกาสเจอผู้ชายดีๆ ได้อีกเยอะ
คิดว่าสิ่งที่เขาทำลงไป คงจะเกิดจากเพราะว่าขาดสติ และเครียดมากจนเกินไป
คิดอะไรไม่ออก จึงตัดสินใจทำอย่างนั้น
ถ้าเป็นผมนะ ผมจะใช้เวลาคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา
ว่าเราได้ทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง อะไรที่เราควรปรับปรุงแก้ไข
เพื่อต่อไปในครั้งหน้าเราจะได้มีบทเรียนจากความผิดหวังจากความรักครั้งนี้
จากนั้นก็อาจจะหาเพลงฟัง ดูหนัง อ่านหนังสือ ไปเที่ยว
หรือทำอะไรก็ได้ให้เรารู้สึกสบายใจขึ้น หรือไม่ก็ออกกำลัง
การออกกำลังกายนี่ก็เป็นทางออกที่ดี เมื่อเราทำสิ่งดีๆ
ให้ตัวเราเอง เราก็จะรู้สึกมีคุณค่าขึ้น
สำหรับความรักในวัยเรียนหรือครับ?
คิดว่ามันก็ไปด้วยกันได้นะ ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร ผมว่ามันช่วยทำให้เรารู้เท่าทันสังคมด้วยซ้ำ
ต่อไปข้างหน้าเราก็จะได้เรียนรู้จะที่จะปรับตัว สร้างความสัมพันธ์
กับเพื่อนเพศตรงข้าม อย่างผมเป็นผู้ชาย ผมว่าการคบกัน
เราก็ควรให้เกียรติผู้หญิง และคบกันแบบมีขอบเขต ถึงจะเรียกว่าเป็นรักในวัยเรียนที่ดีครับ
สวัสดีครับ/ค่ะ! ผม/ดิฉันเป็นหมอที่เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์ครับ/ค่ะ ประสบการณ์ของผม/ดิฉันเกี่ยวข้องอย่างแน่นหนากับความตั้งใจในการช่วยเหลือคน และผม/ดิฉันได้ค้นพบทางที่จะใช้พรสวรรค์ทางภาษาของผม/ดิฉันในการทำเช่นนั้น ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของผม/ดิฉันได้เปิดโอกาสให้ผม/ดิฉันไม่เพียงแต่ทำงานกับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังแบ่งปันความรู้และข้อมูลผ่านการเขียนบทความข่าวสาร
ผม/ดิฉันชื่อ Ananda Niran (อนันดา นิรันดร์) และการเดินทางในวงการแพทย์ของผม/ดิฉันเริ่มต้นมานานแล้ว ผม/ดิฉันได้รับการศึกษาที่มหิดลศาสตร์ และตั้งใจที่จะให้ความสุขและความเจริญสบายในสุขภาพกับผู้ป่วย ประสบการณ์การทำงานของผม/ดิฉันรวมถึงการปฏิบัติงานในหลากหลายสถานบริการทางการแพทย์ ที่นั่นผม/ดิฉันมีหน้าที่วินิจฉัย รักษา และดูแลผู้ป่วยที่มีโรคหลากหลาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ผม/ดิฉันเข้าใจว่าสิ่งสำคัญไม่ได้เพียงแค่การช่วยเหลือผู้ป่วยแต่เพิ่มเติมด้วยการกระจายข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มคนใหญ่ ในโลกที่มีข้อมูลทางการแพทย์มากมาย ผม/ดิฉันตัดสินใจที่จะเข้าร่วมมีส่วนร่วมโดยใช้ความรู้และทักษะทางภาษาของผม/ดิฉัน จึงเริ่มเขียนบทความข่าวสารเกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในการแพทย์ โรคต่าง ๆ การป้องกัน และรูปแบบการดำเนินชีวิต
ความหลงไหลในการเขียนช่วยให้ผม/ดิฉันสามารถอธิบายคำศัพท์และความคิดทางการแพทย์ที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ผม/ดิฉันพยายามให้ความสำคัญและรับผิดชอบต่อทุกบทความ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีประโยชน์ ที่สามารถช่วยเหลือคนในการดูแลสุขภาพของตน
พลังประสิทธิ์ของผม/ดิฉันคือที่ทำให้ข้อมูลทางการแพทย์เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนใส่ใจกับความเจริญสุขของตนเอง บทความข่าวสารทุกเรื่องเป็นโอกาสที่จะแบ่งปันความรู้และช่วยเหลือคนที่กำลังมองหาข้อมูลทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ นี่คือเสถียรภาพของผม/ดิฉัน และผม/ดิฉันภาคภูมิใจที่สามารถให้ความช่วยเหลือและแรงบันดาล
ใจในโลกของสายการแพทย์นี้ได้