งานนี้ต้องบอกว่าประทับใจกันสุดๆ
กับความสามารถของน้องๆ คณะคุรุศาสตร์
สาขาวิชาดนตรีศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
ที่วาดลวดลายไว้บนเวที “คุรุศาสตร์คอนเสิร์ต”
ที่จัดขึ้นไปเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา
ณ โรงละคร อาคารนาฏศิลป์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่
2 แล้วค่ะ
คุรุศาสตร์คอนเสิร์ต
เป็นคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นเพื่อให้น้องๆ นักศึกษาสาขาวิชาดนตรีศึกษาได้พัฒนาฝึกฝนและแสดงศักยภาพทางดนตรีผ่านการแสดงคอนเสิร์ต
และอีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์สาขาวิชาดนตรีศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏอีกด้วย
ในวันนั้นบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
มีผู้สนใจรอเข้าชมกันมากมาย ตั้งแต่ตัวแทนจากหน่วยงานราชการ
สื่อมวลชน ประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าว รวมถึงเพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมสถาบันก็มาร่วมให้กำลังใจกันด้วยจนเวลาประมาณ
14.00 น. ประตูโรงละครก็เปิดให้ผู้ชมได้ทยอยเข้าไปนั่งจับจองพื้นที่กันจนเต็มโรงละครขนาดความจุกว่า
500 ที่นั่ง จากนั้นพิธีกรที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่าง
อ.พรพักตรา ไชยเศรษฐ
ก็ออกมากล่าวต้อนรับผู้ชม พร้อมกับเชิญ ผศ.ดร.ปราโมทย์
เงียบประเสริฐ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร
ให้เกียรติขึ้นมาเป็นประธานในการเปิดงาน
ต่อกันด้วยการฉายสไลด์ประวัติและความเป็นมาของ “คุรุศาตร์คอนเสิร์ต”
และเวลาที่ผู้ชมรอคอยก็มาถึง
เมื่อคอนเสิร์ตเปิดฉากขึ้นด้วยการ เดี่ยวจะเข้ที่
ในเพลง “ลาวแพน” โดยนายคมสัมต์ ภาคภูมิ
แค่เพียงเริ่มต้นก็สะกดผู้ชมให้เคลิบเคลิ้มไปกับมนต์เสน่ห์ของดนตรีไทยกันแล้ว
ต่อกันด้วยการแสดงของวง
“แคแสดอันดามัน”
ที่พร้อมใจใส่เสื้อสีแสดมากันครบทีม กับการแสดงในชื่อชุด
“สำราญอันดามัน”
ซึ่งเป็นการบรรเลงดนตรีไทยในจังหวะสนุกสนาน เร้าใจ แต่ยังคงแฝงไว้ซึ่งความอ่อนช้อยของท่วงทำนองเพลงไทยไว้ได้อย่างครบถ้วน
เมื่อการแสดงจบก็ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมดังสนั่นกับการแสดงที่สุดยอดนี้
ถัดมาคอนเสิร์ตจึงได้เริ่มเข้าสู่บรรยากาศของบทเพลงแจ๊ส
กับการแสดงที่ชื่อว่า Saxophone
Recital เริ่มจาก นายกฤตภาส
อังกูรสินธนา ที่ออกมาเดี่ยวแซ็กโซโฟน 2 เพลงรวด
ในบทเพลง The
Colour of the wind เพลงประกอบภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องโพคาฮอนทัส
และเพลง In the rain
ถัดมาเป็น นางสาว อัจจารีย์
คีรินทร์ มาในบทเพลง Speak
Softly Love เพลงประกอบภาพยนตร์อมตะเรื่อง
God Father
ความเคลิบเคลิ้มไปกับดนตรีแจ๊สยังไม่หมดเท่านี้
เมื่อถัดมาเป็นการแสดงในชื่อชุดว่า The
Piano ที่มีน้องๆ นักศึกษาสลับกันออกมาเดี่ยวเปียโนติดต่อกันถึง
4 เพลงรวด เริ่มที่เพลงแรกกับบทเพลงคลาสสิคที่ชื่อ First
Movement from Sonatina Op.36,No.4 โดยนายอนุวรรต
สุทธิรักษ์ ถัดมาเป็นบทเพลง Mariace
D’amour โดยนายอนุพงษ์ ไชยมล เพลงที่สาม
Alone Together โดยนางสาวลีลาวดี
ลีลานนท์ และสุดท้ายในบทเพลง As
Time Goes By โดยนายศักดิ์อนันต์ เอียดตรง
หลังจากที่เคลิบเคลิ้มไปกับการบรรเลงเพลงแจ๊สเบาๆ
สบายๆ มาพอสมควร บรรยากาศคอนเสิร์ตก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ครั้ง เมื่อวงดนตรีที่ชื่อ The
Modal ออกมาเพิ่มจังหวะให้ได้โยกกันเล็กน้อยในบทเพลงแจ๊สจังหวะสนุกสนาน
3 เพลงรวด ไม่ว่าจะเป็น Tenor
Madness, Blue Moon และ The Girl from Ipanema
และปิดท้ายการแสดงคอนเสิร์ตที่ยาวนานร่วม
3 ชม. กับการแสดงชุด Comtemporary
โดยวงมะขามแบรนด์ ที่ออกมาบรรเลงในบทเพลงไทยร่วมสมัย
ในจังหวะคึกคักสนุกสนาน ปลุกให้ผู้ชมแอบโยกตามกันเป็นแถว
สมกับเป็นการแสดงปิดท้ายคอนเสิร์ตที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
หลังจากที่คุรุศาสตร์คอนเสิร์ตจบลงก็ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมในห้องประชุมอย่างกึกก้อง
งานนี้เรียกได้ว่าผู้ชมได้เต็มอิ่มไปกับอรรถรสทางดนตรีที่น้องๆ
จากคณะคุรุศาสตร์ สาชาวิชาดนตรีศึกษา มหาวิทยาลับราชภัฏภูเก็ตเป็นผู้มอบให้
ถึงแม้ว่าคอนเสิร์ตจะจบลงแล้วแต่ความประทับใจนั้นยังคงอยู่ในใจผู้ชมไม่ลืมเลยค่ะ
สวัสดีครับ/ค่ะ! ผม/ดิฉันเป็นหมอที่เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์ครับ/ค่ะ ประสบการณ์ของผม/ดิฉันเกี่ยวข้องอย่างแน่นหนากับความตั้งใจในการช่วยเหลือคน และผม/ดิฉันได้ค้นพบทางที่จะใช้พรสวรรค์ทางภาษาของผม/ดิฉันในการทำเช่นนั้น ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของผม/ดิฉันได้เปิดโอกาสให้ผม/ดิฉันไม่เพียงแต่ทำงานกับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังแบ่งปันความรู้และข้อมูลผ่านการเขียนบทความข่าวสาร
ผม/ดิฉันชื่อ Ananda Niran (อนันดา นิรันดร์) และการเดินทางในวงการแพทย์ของผม/ดิฉันเริ่มต้นมานานแล้ว ผม/ดิฉันได้รับการศึกษาที่มหิดลศาสตร์ และตั้งใจที่จะให้ความสุขและความเจริญสบายในสุขภาพกับผู้ป่วย ประสบการณ์การทำงานของผม/ดิฉันรวมถึงการปฏิบัติงานในหลากหลายสถานบริการทางการแพทย์ ที่นั่นผม/ดิฉันมีหน้าที่วินิจฉัย รักษา และดูแลผู้ป่วยที่มีโรคหลากหลาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ผม/ดิฉันเข้าใจว่าสิ่งสำคัญไม่ได้เพียงแค่การช่วยเหลือผู้ป่วยแต่เพิ่มเติมด้วยการกระจายข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มคนใหญ่ ในโลกที่มีข้อมูลทางการแพทย์มากมาย ผม/ดิฉันตัดสินใจที่จะเข้าร่วมมีส่วนร่วมโดยใช้ความรู้และทักษะทางภาษาของผม/ดิฉัน จึงเริ่มเขียนบทความข่าวสารเกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในการแพทย์ โรคต่าง ๆ การป้องกัน และรูปแบบการดำเนินชีวิต
ความหลงไหลในการเขียนช่วยให้ผม/ดิฉันสามารถอธิบายคำศัพท์และความคิดทางการแพทย์ที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ผม/ดิฉันพยายามให้ความสำคัญและรับผิดชอบต่อทุกบทความ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีประโยชน์ ที่สามารถช่วยเหลือคนในการดูแลสุขภาพของตน
พลังประสิทธิ์ของผม/ดิฉันคือที่ทำให้ข้อมูลทางการแพทย์เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนใส่ใจกับความเจริญสุขของตนเอง บทความข่าวสารทุกเรื่องเป็นโอกาสที่จะแบ่งปันความรู้และช่วยเหลือคนที่กำลังมองหาข้อมูลทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ นี่คือเสถียรภาพของผม/ดิฉัน และผม/ดิฉันภาคภูมิใจที่สามารถให้ความช่วยเหลือและแรงบันดาล
ใจในโลกของสายการแพทย์นี้ได้