สำหรับคนทำงานแล้ว การได้ออกไป hang out ตามสถานที่ต่างๆ หลังเลิกงาน ถือได้ว่าเป็นการผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังเป็นสีสันในชีวิตประจำวันของคนวัยทำงานอย่างเราๆ ไปแล้ว วันนี้ Cool cuisine จึงขอนำเสนอร้านอาหารน่ารักๆ อย่างร้าน “PAI YAN YAI” ที่จะทำให้คุณยิ้มได้ด้วยสไตล์การตกแต่งในรูปแบบเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร
ร้านไปยาลใหญ่ เป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่เน้นบรรยากาศสบายๆ อบอุ่นและเป็นกันเอง เจ้าของร้าน คุณธีรพล วัฒนไวฑูรย์ชัย หรือคุณเป๋ง มีความตั้งใจอยากจะให้ร้านแห่งนี้เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์แห่งใหม่สำหรับคนภูเก็ต เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเหงา เศร้า ทุกข์ สุข หรืออยากจะรับประทานอาหารอร่อยๆ สักมื้อ ก็ขอให้นึกถึงร้านไปยาลใหญ่เป็นอันดับแรก
จุดเด่นของร้าน อยู่ที่การบริการอันน่าประทับใจ รวมถึงรสชาติอาหารที่รับประกันความอร่อย ในราคาไม่แพง ด้วยความที่เจ้าของร้านเป็นคนชอบรับประทาน จึงใส่ใจในคุณภาพของวัตถุดิบเป็นพิเศษ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และเกิดความประทับใจจนกลับมาใช้บริการอีกครั้ง
การตกแต่งร้านเป็นสไตล์ผสมผสาน ระหว่าง โมเดิร์น กับ เรโทร เด่นสะดุดตาตรง chandelier ห้อยระย้าตัดกับพื้นเพดานสีแดง ฝาผนังด้านข้างประดับด้วยวอลเปเปอร์เป็นรูปภาพประทับใจในมุมต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งยังเก๋ไก๋ด้วยการนำของเล่นสะสมของเจ้าของร้านมาตกแต่ง เช่น ไอเดียที่นำแบบเรียนในสมัยก่อนมาทำเป็นเมนูอาหาร หรือการนำเอากล่องดินสอมาเป็นที่เก็บเงิน มุมชั้นวางของที่ตั้งโชว์ขนมโบราณที่หาได้ยากในปัจจุบัน ล้วนสร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้แก่ลูกค้า รวมถึงเป็นหัวข้อสนทนาให้รำลึกถึงความหลังกันอีกด้วย
ร้านไปยาลใหญ่เปิดให้บริการสองรอบ คือ รอบเช้า จันทร์-ศุกร์ เวลา 7.00-11.00 น. เมนูอาหารเช้าที่แนะนำ ได้แก่ ไข่กะทะ ซึ่งเสิร์ฟมาในกระทะร้อนๆ ทั้งกุนเชียง หมูยอ ล้วนสั่งตรงมาจากร้านขื้นชื่อจากจังหวัดอุดรธานี สัปดาห์ละครั้ง จึงรับประกันความสด อร่อย รับประทานคู่กับ นมตราหมีอุ่นร้อนๆ อิ่มแบบสบายท้องในยามเช้า อีกเมนูง่ายๆ ที่แสนจะธรรมดา อย่าง มาม่า แต่ล้นด้วยคุณค่าทางโภชนาการอาหารด้วยเนื้อ ไข่ และผักที่ใส่มาเต็มชาม และร้านจะเปิดอีกครั้งในช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. ลูกค้าจะทยอยกันมาตั้งแต่หลังเลิกงาน เพื่อรับประทานอาหารก่อนกลับบ้าน และอีกช่วงคือช่วงค่ำๆไปจนถึงดึก จะเป็นลูกค้าที่ไปทำกิจกรรมหรือทำธุระส่วนตัวมาเรียบร้อยแล้ว แล้วออกมาหาสถานที่ hang out ดื่มสังสรรค์ในยามค่ำคืน สำหรับอาหาร ทางร้านจะเน้นอาหารไทยๆ รสชาติแบบฉบับภาคกลาง แต่ประยุกต์ให้เข้ากับรสชาติอาหารพื้นเมืองภูเก็ต รสชาติอาหารที่ออกมาจึงพิเศษไม่ซ้ำใคร เมนูเด็ดที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ ได้แก่
น่องไก่รวนเค็ม ( 65 บาท )โดยนำน่องไก่ไปหมักในเครื่องเทศอย่างดี แล้วนำไปทอดด้วยไฟอ่อนๆ จนแห้ง จากนั้นก็นำไปรวนเค็มในกระทะกับซีอิ้ว จนได้ไก่ที่กรอบนอกนุ่มใน ไม่เลี่ยนน้ำมัน ตามมาด้วย แกงเขียวหวานไก่ ( 65 บาท ) ที่เน้นความเข้มข้นของกะทิ และกลิ่นหอมของเครื่องแกง ซึ่งนำมาโขกเพิ่มเองด้วยสูตรของร้าน รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม ตามสไตล์ภาคกลาง ไม่ลองไม่ได้กับ ฉู่ฉี่ปลากะพง ( 65 บาท ) ที่นำปลากะพงมาหั่นชิ้นพอดีคำ ราดด้วยเครื่องแกงสีเหลืองสด เน้นความเข้มข้นของกะทิ รสชาติกลมกล่อมยิ่งนัก
อีกเมนูแนะนำคือ ปลากะพงผัดฉ่า ( 65 บาท ) เนื้อปลากะพงสดๆ หั่นเป็นชิ้น นำไปผัดกับน้ำพริกผัดฉ่าที่ผสมขึ้นเอง โขกกันสดๆ ทุกวัน โดยใช้เครื่องเทศสด มีกลิ่นหอมของใบโหระพา พริกไทยสด และพริกสด เนื้อปลาสดกรอบเข้ากันดีกับ เครื่องแกงเข้มข้นรสชาติจัดจ้านถึงใจ
หรือใครที่ชื่นชอบอาหารประเภทยำ ก็ขอแนะนำ ยำปลาฉิ้งฉ้าง ซึ่งที่ร้านเลือกใช้ปลาฉิ้งฉ้างปรุงรสกรุบกรอบ ราดด้วยน้ำยำสูตรเด็ดของร้านรสจี๊ดจ๊าดแซ่บสะใจ เหมาะเป็นกับแกล้มจานเด็ดของนักดื่มยิ่งนัก
อีกทั้ง เครื่องดื่ม ก็มีให้เลือกหลากหลาย อาทิชา กาแฟ ช็อคโกแลตปั่น พิเศษตรงที่ทางร้านไม่ใช้นมข้น เหมือนที่อื่นๆ แต่จะใช้ครีมเทียม น้ำเชื่อม และนมเมจิแทน รสชาติออกมาจึงกลมกล่อม หวาน มัน อย่าบอกใคร และปิดท้ายกันที่เหล้าปั่น ที่นำมาเสิร์ฟในวันนี้ คือกรีนแอปเปิ้ลเหล้าปั่นสีเขียวสด ซึ่งใช้ส่วนผสมอย่างดี อาทิ จิน วอดก้า มะนาวสด และน้ำเชื่อมรสชาติหอมหวาน เด่นตรงรสเปรี้ยว และกลิ่นหอมของมะนาว ขายเป็นเหยือกขนาด 0.5 ลิตร แค่ 89 บาทเท่านั้นอ่านมาถึงตรงนี้ ก็ต้องบอกว่า อย่าช้า ต้องลองไปพิสูจน์ความอร่อยกันด้วยตัวเอง และหากคุณกำลังมองหาสถานที่ hang out แห่งใหม่ในค่ำคืนนี้ ก็ตรงไปที่ร้านไปยาลใหญ่กันได้เลย
พิเศษสุด ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ สำหรับผู้อ่านเว็บไซต์ภูเก็ตบูลเลทิน
เมื่อทานอาหารครบตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป รับฟรี! เหล้าปั่น 1 เหยือกขนาด 0.5 ลิตร ทันที
ร้าน Pai Yan Yai ไปยาลใหญ่ |
สวัสดีครับ/ค่ะ! ผม/ดิฉันเป็นหมอที่เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์ครับ/ค่ะ ประสบการณ์ของผม/ดิฉันเกี่ยวข้องอย่างแน่นหนากับความตั้งใจในการช่วยเหลือคน และผม/ดิฉันได้ค้นพบทางที่จะใช้พรสวรรค์ทางภาษาของผม/ดิฉันในการทำเช่นนั้น ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของผม/ดิฉันได้เปิดโอกาสให้ผม/ดิฉันไม่เพียงแต่ทำงานกับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังแบ่งปันความรู้และข้อมูลผ่านการเขียนบทความข่าวสาร
ผม/ดิฉันชื่อ Ananda Niran (อนันดา นิรันดร์) และการเดินทางในวงการแพทย์ของผม/ดิฉันเริ่มต้นมานานแล้ว ผม/ดิฉันได้รับการศึกษาที่มหิดลศาสตร์ และตั้งใจที่จะให้ความสุขและความเจริญสบายในสุขภาพกับผู้ป่วย ประสบการณ์การทำงานของผม/ดิฉันรวมถึงการปฏิบัติงานในหลากหลายสถานบริการทางการแพทย์ ที่นั่นผม/ดิฉันมีหน้าที่วินิจฉัย รักษา และดูแลผู้ป่วยที่มีโรคหลากหลาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ผม/ดิฉันเข้าใจว่าสิ่งสำคัญไม่ได้เพียงแค่การช่วยเหลือผู้ป่วยแต่เพิ่มเติมด้วยการกระจายข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มคนใหญ่ ในโลกที่มีข้อมูลทางการแพทย์มากมาย ผม/ดิฉันตัดสินใจที่จะเข้าร่วมมีส่วนร่วมโดยใช้ความรู้และทักษะทางภาษาของผม/ดิฉัน จึงเริ่มเขียนบทความข่าวสารเกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในการแพทย์ โรคต่าง ๆ การป้องกัน และรูปแบบการดำเนินชีวิต
ความหลงไหลในการเขียนช่วยให้ผม/ดิฉันสามารถอธิบายคำศัพท์และความคิดทางการแพทย์ที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ผม/ดิฉันพยายามให้ความสำคัญและรับผิดชอบต่อทุกบทความ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีประโยชน์ ที่สามารถช่วยเหลือคนในการดูแลสุขภาพของตน
พลังประสิทธิ์ของผม/ดิฉันคือที่ทำให้ข้อมูลทางการแพทย์เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนใส่ใจกับความเจริญสุขของตนเอง บทความข่าวสารทุกเรื่องเป็นโอกาสที่จะแบ่งปันความรู้และช่วยเหลือคนที่กำลังมองหาข้อมูลทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ นี่คือเสถียรภาพของผม/ดิฉัน และผม/ดิฉันภาคภูมิใจที่สามารถให้ความช่วยเหลือและแรงบันดาล
ใจในโลกของสายการแพทย์นี้ได้