Congratulation ล่วงหน้านะคะ กับว่าที่บัณฑิตที่ใกล้จะรับปริญญากันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
สำหรับวันแห่งความสำเร็จนี้ สาวๆ ทั้งหลายก็คงจะให้ความสำคัญกับความสวยความงามกันเป็นพิเศษ
ก็แหงล่ะ! วันรับปริญญาไม่ได้มีกันบ่อยๆ ก็ย่อมตื่นเต้นกันมากเป็นธรรมดา
งานนี้ฟาร่าขอเป็นอีกคนที่จะช่วยน้องๆ บัณฑิตให้สวยเริ่ด
ด้วยการนำทิปการเตรียมตัวให้สวยพร้อมสำหรับวันรับปริญญามาฝากกันค่ะ
เริ่มตั้งแต่ก่อนถึงวันที่จะต้อง make up กันเลยละกัน…
สาวๆ ว่าที่บัณฑิตทั้งหลายควรตระเตรียมใบหน้าใสกิ๊กเอาไว้
เพื่อให้ง่ายต่อการทำงานในขั้นตอนการแต่งหน้า วิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด
ก็คือ การนอนแต่หัวค่ำ เพื่อให้หน้าไม่โทรมและร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่
กระปรี้กระเปร่าพร้อมเผชิญศึกหนักทั้งวันซ้อมและวันรับจริง
แต่ถ้าใครมีเวลามากกว่านั้น ก็แนะนำให้ขัดหน้ากันซักเล็กน้อย
เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หน้าดูเนียนเรียบ แต่งง่าย และช่วยให้เครื่องสำอางติดทนยิ่งขึ้นค่ะ
หาช่างแต่งหน้าทำผมคู่ใจ…
จริงๆ แล้วขั้นตอนนี้ควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะ การจะหาช่างแต่งหน้า-ทำผมที่แต่งสวยเด้งถูกใจเรานั้นไม่ง่ายนัก
ถ้าเราจะต้องแต่งหน้ากับร้านที่ไม่คุ้นเคย ฟาร่าว่าลองให้เขาแต่งหน้าให้ดูก่อนสักครั้งก่อนวันจริง
ว่าแต่งได้ถูกใจเรารึเปล่า แต่ถ้าไม่ทันแล้วจริงๆ ก็ลองนึกดูซิว่า
เราเคยไปที่ไหนแล้วเห็นคนแต่งหน้าสวยถูกใจเราบ้าง เดินตรงปรี่ไปถามเขาเลยค่ะว่า
สวยๆอย่างนี้ต้องแต่งที่ไหน (กล้าๆหน่อย) แล้วก็ไปตามหาร้านที่เขาแต่งนั่นแหล่ะค่ะ
เช่นเดียวกัน คือ ให้ที่ร้านลองแต่งหน้าเราดูสักครั้งก่อนวันจริง
แล้วเราก็ลองไปเดินๆ วิ่งๆ อาบเหงื่อต่างน้ำเสมือนกับว่าวันนั้นเป็นวันรับจริงของเรา
(วันนั้นน้องๆ จะได้อาบเหงื่อต่างน้ำจริงๆ พี่คอนเฟิร์ม!!)
ว่าเครื่องสำอางนั้นเราแพ้รึเปล่า และติดทนกับหน้าเราดีแค่ไหน
จะได้ไม่พลาดท่าเสียทีมานั่งเสียใจกันตอนดูรูปนะจ๊ะ
Tip
แต่งหน้าเล็กๆ ไม่แนะนำให้แต่งหน้ากันเองนะคะสาวๆ ถ้าคิดว่าฝีมือยังไม่โปรจริง (ลงทุนกันนิดนึงนะ..สวยเด้งกันวันนี้ไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะได้แต่งงานเมื่อไหร่ 55+) เพราะจากประสบการณ์ที่เคยผ่านมา คนที่แต่งหน้าเองมักจะพลาดในขั้นตอนของการลงรองพื้น และ คนที่แต่งหน้าเองส่วนใหญ่มักจะถ่ายรูปออกมาไม่สวยเด้งเท่าเพื่อนคนอื่น (อันนี้หมายถึงคนที่ไม่โปรนะจ๊ะ) อ้อ! แล้วก็เวลาแต่งหน้าที่ร้าน อย่าลืมบอกช่างแต่งหน้าเขาด้วยว่า อย่าทารองพื้นลงบนหน้าของเราให้หนักนัก เพราะเราจะต้องเผชิญทั้งเหงื่อ ทั้งความมัน พลอยจะทำให้รองพื้นหลุดด่างเอาซะง่ายๆ ถ้าที่ร้านมีเครื่องสำอางประเภทกันน้ำกันเหงื่อได้นี่ก็จะดีมากเลย ส่วนคนที่หน้าไม่ค่อยมีปัญหา แนะนำว่า ใช้แค่ make up base กับแป้งฝุ่นผสมรองพื้นเท่านี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ ส่วนในขั้นตอนการแต่งหน้านั้น การใช้สีก็ให้ใช้สีที่อ่อน หรือกลางๆ อย่าให้เข้มมากเกินไปโดยเฉพาะลิปสติก เพราะเราสามารถเติมเอาระหว่างวันได้ ใช้สีประมาณส้ม ชมพู สีพีช นี่โอเคเลย นอกจากนี้ เครื่องสำอางตระกูล Shimmer วิ๊งวับเป็นประกายทั้งหลายนี่เบรกไว้เลยนะคะ เพราะว่าแสงแดดเวลากระทบกับ Shimmer พวกนี้จะทำให้หน้าที่มันอยู่แล้วมันยิ่งขึ้นกว่าปกติซะอีก ทรงผมรับปริญญา นอกจากสาวๆจะต้องวุ่นวายในขั้นตอนการแต่งหน้าแล้ว |
เตรียมสิ่งที่ต้องพกไปในวันรับปริญญา ดังนี้ค่ะ
• ทิชชู่สำหรับเช็ดหน้าหรือกระดาษซับมัน (เวลาซับให้กดเบาๆ
ให้กระทบกระเทือนเครื่องสำอางน้อยที่สุดนะคะ )
• กระจกขนาดพกพาไว้เช็คหน้าระหว่างวัน
• ลิปสติกไว้เติมสีปาก เพราะ เป็นส่วนที่หลุดออกได้ง่าย
• แป้งฝุ่น + แปรงปัดแก้ม ไว้เพิ่มความผ่องบนใบหน้า แต่ควรเติมเฉพาะเวลาหน้าแห้งนะคะ
ไม่งั้นหน้าเป็นคราบแน่ๆ
• ครีมเช็ดเครื่องสำอาง พกใส่กระปุกเล็กๆไป เผื่อเวลามาสคาร่าเลอะหรือมีเหตุการณ์เฉพาะหน้ามาบั่นทอนความสวยจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
• สำลีแบบแผ่นและสำลีแบบก้าน ไว้ใช้คู่กับครีมเช็ดเครื่องสำอางค่ะ
ข้อสุดท้าย ที่ฟาร่าอยากฝากไว้ คือ บัณฑิตทั้งหลาย ทานข้าวกันให้อิ่มๆนะคะ
แล้วก็ดื่มน้ำกันในวันนั้นให้น้อยที่สุด (แค่จิบๆ ก็พอ)
เพราะเราจะต้องวุ่นวายกับการถ่ายรูปและเตรียมตัวกันอีกหลายเรื่อง
และถ้าเข้าหอประชุมไปแล้วจะออกมาห้องน้ำห้องท่าคงลำบากแล้วล่ะ
อีกอย่างในวันนั้นใครจะเข้าห้องน้ำกันแต่ละที คงต้องเข้าคิวรอกันยาวเหยียดเพราะคนเยอะมากๆๆๆ
ยังไงก็+อย่าลืมเตรียมความพร้อมกันไว้ก่อนนะคะ
สวัสดีครับ/ค่ะ! ผม/ดิฉันเป็นหมอที่เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์ครับ/ค่ะ ประสบการณ์ของผม/ดิฉันเกี่ยวข้องอย่างแน่นหนากับความตั้งใจในการช่วยเหลือคน และผม/ดิฉันได้ค้นพบทางที่จะใช้พรสวรรค์ทางภาษาของผม/ดิฉันในการทำเช่นนั้น ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของผม/ดิฉันได้เปิดโอกาสให้ผม/ดิฉันไม่เพียงแต่ทำงานกับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังแบ่งปันความรู้และข้อมูลผ่านการเขียนบทความข่าวสาร
ผม/ดิฉันชื่อ Ananda Niran (อนันดา นิรันดร์) และการเดินทางในวงการแพทย์ของผม/ดิฉันเริ่มต้นมานานแล้ว ผม/ดิฉันได้รับการศึกษาที่มหิดลศาสตร์ และตั้งใจที่จะให้ความสุขและความเจริญสบายในสุขภาพกับผู้ป่วย ประสบการณ์การทำงานของผม/ดิฉันรวมถึงการปฏิบัติงานในหลากหลายสถานบริการทางการแพทย์ ที่นั่นผม/ดิฉันมีหน้าที่วินิจฉัย รักษา และดูแลผู้ป่วยที่มีโรคหลากหลาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ผม/ดิฉันเข้าใจว่าสิ่งสำคัญไม่ได้เพียงแค่การช่วยเหลือผู้ป่วยแต่เพิ่มเติมด้วยการกระจายข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มคนใหญ่ ในโลกที่มีข้อมูลทางการแพทย์มากมาย ผม/ดิฉันตัดสินใจที่จะเข้าร่วมมีส่วนร่วมโดยใช้ความรู้และทักษะทางภาษาของผม/ดิฉัน จึงเริ่มเขียนบทความข่าวสารเกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในการแพทย์ โรคต่าง ๆ การป้องกัน และรูปแบบการดำเนินชีวิต
ความหลงไหลในการเขียนช่วยให้ผม/ดิฉันสามารถอธิบายคำศัพท์และความคิดทางการแพทย์ที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ผม/ดิฉันพยายามให้ความสำคัญและรับผิดชอบต่อทุกบทความ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีประโยชน์ ที่สามารถช่วยเหลือคนในการดูแลสุขภาพของตน
พลังประสิทธิ์ของผม/ดิฉันคือที่ทำให้ข้อมูลทางการแพทย์เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนใส่ใจกับความเจริญสุขของตนเอง บทความข่าวสารทุกเรื่องเป็นโอกาสที่จะแบ่งปันความรู้และช่วยเหลือคนที่กำลังมองหาข้อมูลทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ นี่คือเสถียรภาพของผม/ดิฉัน และผม/ดิฉันภาคภูมิใจที่สามารถให้ความช่วยเหลือและแรงบันดาล
ใจในโลกของสายการแพทย์นี้ได้