คุณรู้หรือไม่ว่านอกจากความไม่สมดุลของภาวะความร้อนเย็นในร่างกาย
ภาวะความไม่สมดุลระหว่างการทำงานของสมองซีกซ้ายและขวา
ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนเราเจ็บป่วยได้เช่นกัน
หลายคนที่ต้องทำกิจกรรมต่างๆ
ในชีวิตประจำวัน โดยใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายซ้ำๆ
เป็นเวลานาน อาจจะรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายส่วนนั้นมีอาการเจ็บปวด
หรืออ่อนล้ามากกว่าส่วนอื่นๆ สาเหตุก็เนื่องมาจากร่างกายส่วนนั้นถูกใช้งานอย่างขาดสมดุลนั่นเอง
ปัญหาเรื่องนี้แก้ไม่ยากค่ะ
เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำกิจกรรมต่างๆ
ของคุณ เช่น คนที่ถนัดทำอะไรด้วยมือขวา
ก็ลองเปลี่ยนมาใช้มือซ้ายบ้าง คนที่ต้องทำงานเกี่ยวกับการคิดคำนวณ
ก็ลองหางานอดิเรกที่กระตุ้นการทำงานของสมองซีกขวาทำกันดูบ้าง
เช่น การร้องเพลง ทำงานประดิษฐ์ หรืองานศิลปะ หรือหากไม่สะดวกที่จะทำตามที่แนะนำข้างต้น
แม่หนอนขอแนะนำ การปรับสมดุลของร่างกายด้วยวิธีการนวดกดจุด
ศาสตร์การแพทย์แผนไทย ที่หลายคนอาจมองข้ามไป
เมื่อพูดถึงการนวดกดจุด
หลายคนอาจกำลังสงสัยว่า จะเหมือนกับการนวดในสปาที่มีอยู่ทั่วไปหรือเปล่า
แม่หนอนขอบอกว่า จริงๆ แล้ว การนวดสปานั้น
หลักใหญ่ใจความ ก็คือการนวดเพื่อการผ่อนคลาย โดยอาศัยการสัมผัส
กลิ่นอโรมา และบรรยากาศของสถานที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ
แต่การนวดกดจุดที่แม่หนอนพูดถึงนั้น เป็นการนวดกดจุดที่ให้ทั้งความผ่อนคลายและบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่างๆของร่างกายในเวลาเดียวกัน
ซึ่งจะต้องใช้ความสามารถของผู้นวดเป็นอย่างมาก
การนวดกดจุด เป็นการนวดเพื่อปรับสมดุลในร่างกาย โดยการกดจุด
เพิ่มพลังในเส้นเลือดให้สามารถนำเลือด และออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง
และซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่สึกหรอของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ซึ่งถือเป็นขั้นตอนหนึ่งในการดีทอกซ์ หรือการล้างพิษแผนไทย
อาการที่สามารถบรรเทาได้ด้วยการนวดชนิดนี้
ได้แก่ ลมตะกรัง หรือ โรคไมเกรน ไซนัส อาการปัสสาวะเป็นเลือดในผู้ป่วยโรคไต
อาการข้อเท้าแพลง นิ้วไกปืน คอตกหมอน อาการชาของสะโพก
แขน ขา อาการทุกอย่างที่เกี่ยวกับเส้นเอ็น หมอนรองกระดูกเคลื่อน
และอาการปากเบี้ยวของผู้ป่วยโรคอัมพาต เป็นต้น
อาการเหล่านี้เมื่อได้รับการนวดควบคู่ไปกับการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบัน
ก็จะทุเลาลงได้
การนวดกดจุดจะเริ่มด้วย
การตรวจดูว่าผู้เข้ารับการนวดนั้นมีอาการผิดปกติของกล้ามเนื้อ
หรือร่างกายส่วนใด มากน้อยแค่ไหน ก่อนจะทำการนวดถ่ายน้ำหนักเพื่อคลายกล้ามเนื้อ
จากนั้นเริ่มนวดลงน้ำหนักเพื่อบังคับเลือดให้วิ่งเข้าสู่หัวใจและสูบฉีดไปฟอกที่ปอดให้เป็นเลือดดี
แล้วไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงส่วนที่มีปัญหาของร่างกาย ในระหว่างการนวด
ผู้นวดจะทายาหม่องร่วมด้วยเป็นระยะๆ เรียกว่าการเคลียร์เส้น
หลังจากนั้นจึงเริ่มการกดจุดแก้อาการ
หลังการนวดกดจุดทุกครั้ง
แนะนำให้ดื่มน้ำอุ่นประมาณ 250 – 500 ซีซี เพื่อเป็นการล้างพิษที่ตกค้างโดยธรรมชาติ
ไม่ควรอาบน้ำ หรือล้างมือ ล้างเท้า ล้างหน้า ด้วยน้ำเย็น
ไม่ควรรับประทานอาหารหมักดอง และข้าวเหนียว เพราะอาหารเหล่านี้มีส่วนประกอบของกรดยูริก
ซึ่งจะไปสะสมตามข้อของร่างกาย ทำให้อาการต่างกลับมากำเริบอีก
และที่สำคัญ ควรพักผ่อนอย่างน้อย 3 – 4 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุล
หากหลังรับการนวดแล้ว
มีอาการระบมคล้ายกับอาการหลังจากการออกกำลังกาย อย่าเพิ่งตกใจค่ะ
เพราะเป็นอาการปกติ อาจเป็นอย่างนี้อยู่ประมาณ 1 – 2 วัน
หลังจากนั้นอาการระบมนั้นจะหายไปเอง และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่เคยรู้สึกว่ามีปัญหาก็จะมีอาการดีขึ้นค่ะ
ใครที่สนใจการบรรเทาอาการเจ็บป่วยของร่างกายโดย
ศาสตร์แผนไทย อย่างการนวดกดจุด ที่ภูเก็ต ก็มีบริการแล้วค่ะ
คุณสามารถสอบถามได้ที่ คุณปู สุรภา พรหมรักษา Alica Spa
บ้านหมากสง ซอยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต
(ม.อ.ภูเก็ต) กะทู้ ภูเก็ต โทร. 084 – 1183967
สวัสดีครับ/ค่ะ! ผม/ดิฉันเป็นหมอที่เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์ครับ/ค่ะ ประสบการณ์ของผม/ดิฉันเกี่ยวข้องอย่างแน่นหนากับความตั้งใจในการช่วยเหลือคน และผม/ดิฉันได้ค้นพบทางที่จะใช้พรสวรรค์ทางภาษาของผม/ดิฉันในการทำเช่นนั้น ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของผม/ดิฉันได้เปิดโอกาสให้ผม/ดิฉันไม่เพียงแต่ทำงานกับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังแบ่งปันความรู้และข้อมูลผ่านการเขียนบทความข่าวสาร
ผม/ดิฉันชื่อ Ananda Niran (อนันดา นิรันดร์) และการเดินทางในวงการแพทย์ของผม/ดิฉันเริ่มต้นมานานแล้ว ผม/ดิฉันได้รับการศึกษาที่มหิดลศาสตร์ และตั้งใจที่จะให้ความสุขและความเจริญสบายในสุขภาพกับผู้ป่วย ประสบการณ์การทำงานของผม/ดิฉันรวมถึงการปฏิบัติงานในหลากหลายสถานบริการทางการแพทย์ ที่นั่นผม/ดิฉันมีหน้าที่วินิจฉัย รักษา และดูแลผู้ป่วยที่มีโรคหลากหลาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ผม/ดิฉันเข้าใจว่าสิ่งสำคัญไม่ได้เพียงแค่การช่วยเหลือผู้ป่วยแต่เพิ่มเติมด้วยการกระจายข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มคนใหญ่ ในโลกที่มีข้อมูลทางการแพทย์มากมาย ผม/ดิฉันตัดสินใจที่จะเข้าร่วมมีส่วนร่วมโดยใช้ความรู้และทักษะทางภาษาของผม/ดิฉัน จึงเริ่มเขียนบทความข่าวสารเกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในการแพทย์ โรคต่าง ๆ การป้องกัน และรูปแบบการดำเนินชีวิต
ความหลงไหลในการเขียนช่วยให้ผม/ดิฉันสามารถอธิบายคำศัพท์และความคิดทางการแพทย์ที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ผม/ดิฉันพยายามให้ความสำคัญและรับผิดชอบต่อทุกบทความ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีประโยชน์ ที่สามารถช่วยเหลือคนในการดูแลสุขภาพของตน
พลังประสิทธิ์ของผม/ดิฉันคือที่ทำให้ข้อมูลทางการแพทย์เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนใส่ใจกับความเจริญสุขของตนเอง บทความข่าวสารทุกเรื่องเป็นโอกาสที่จะแบ่งปันความรู้และช่วยเหลือคนที่กำลังมองหาข้อมูลทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ นี่คือเสถียรภาพของผม/ดิฉัน และผม/ดิฉันภาคภูมิใจที่สามารถให้ความช่วยเหลือและแรงบันดาล
ใจในโลกของสายการแพทย์นี้ได้