“ผู้หญิง”
เมื่อเริ่มก้าวเข้าสู่วัยสาว ก็ต้องพบเจอกับช่วงเวลาของการมีรอบเดือน
และแน่นอนว่าร้อยทั้งร้อย สาวๆ ทุกคน จะต้องผจญกับปัญหาสารพัดอาการระหว่างการมีรอบเดือน
ที่ทั้งหงุดหงิด , ปวดท้อง , ปวดหลัง , ง่วงนอน , กินจุ
, sensitive , อารมณ์แปรปรวน และอีกหลายๆ อาการที่ทำให้ผู้หญิงอย่างเราพลอยเสียบุคลิกกันได้ง่ายๆ
ในช่วงนี้ (เฮ้อ! เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบากจริงๆ นะนี่
– -” ) เมื่อรู้อย่างนี้ ฟาร่าเลยมีวิธีรับมืออย่างมั่นใจสำหรับสารพัดอาการในวันนั้นของเดือนมาฝากกันค่ะ…
ก่อนมีประจำเดือนสัก 2-3
วัน หรือบางคนอาจนานกว่านั้นเป็นสัปดาห์ ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีอาการไม่สบายทั้งทางร่างกายและอารมณ์
ซึ่งอาการที่ว่ามานี้ถือเป็นอาการป่วยที่เรียกว่า “Premenstrual
Syndrome” หรือ “PMS”
ซึ่งมีตั้งแต่อาการเบาๆ ไปจนถึงรุนแรงถึงขั้นคิดสั้นเลยทีเดียว
(แต่อย่างหลังนี่เกิดขึ้นได้กับน้อยรายนะคะ) สำหรับอาการที่สาวๆ
พบได้บ่อย มีดังนี้ค่ะ
กินจุ
: สังเกตกันใช่มั๊ยคะว่าช่วงก่อนมีประจำเดือน
เรามักจะหิวบ่อย อยากทานอาหารโน่นนี่อยู่ตลอดเวลา และทานอาหารได้มากกว่าปกติ
โดยเฉพาะพวกเค้ก ช็อกโกแลตนี่ เห็นทีไรเป็นต้องพุ่งเข้าใส่ทุกครั้งไป
วิธีแก้…
อดใจไว้ให้ได้ เพราะ ผู้หญิงบางคนอาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
1-2 กก. ในช่วงนี้ ทางที่ดี ฟาร่าแนะนำให้อดใจกับของที่อยากและหันมาทานผลไม้แทนจะดีกว่า
สาเหตุที่ร่างกายอยากทานบ่อยและทานได้เยอะในช่วงนี้
เป็นเพราะว่า สารเซโรโทนิน ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนมีรอบเดือน
ทำให้ร่างกายต้องการคาร์โบไฮเดรตมากกว่าปกติเพื่อให้ร่างกายนำของหวานไปเพิ่มสารนี้
เป็นเหตุให้หิวบ่อย ขืนตามใจปากกันอีกล่ะก็ ถึงคราวอ้วนฉุก็ตอนนี้ล่ะ
รมณ์
’ บ่ จอย : เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้ายจนคนรอบข้างตามไม่ทัน
ทำไรโดยไม่ยั้งคิดบ่อยๆ แถมยังช่างกังวลเกินเหตุ
วิธีแก้…
อาการนี้เกิดขึ้น เพราะขาดน้ำตาลในเลือด ฉะนั้น ควรทานอาหารมื้อเล็กๆ
ให้บ่อย อย่างทานขนมหวาน (อย่าทานจนอิ่มล่ะ) เพื่อชดเชยปริมาณน้ำตาลที่เสียไป
หรือพกลูกอมติดตัวไว้ทานก็จะช่วยเพิ่มน้ำตาลในเลือดได้
และควรทำคู่กันกับการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมา
ทำให้เราอารมณ์ดีขึ้นได้ ที่สำคัญอีกอย่าง บอกให้คนรอบข้างรู้ตัวสักหน่อยก็ดี
ว่าช่วงนี้อย่าถือสาอะไรกับอาการ “มนุษย์เมนส์”
ของเรา เค้าจะได้ไม่ถือโทษโกรธกับอารมณ์แปรปรวนขึ้นๆ ลงๆ
ของเราไง
ขี้แง
: สาวๆ บางรายก่อนมีประจำเดือนมักมีอารมณ์
sensitive มากกว่าปกติ รู้สึกหดหู่ อ่อนไหวง่าย จนบางทีรู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ
วิธีแก้…
ดูแลโภชนาการให้ดี บริโภคอาหารไขมันต่ำให้มากขึ้น เพราะเกลือและไขมันที่สูงจะไปเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้เกิดอาการเหล่านี้
และควรบริโภคแร่ธาตุที่จำเป็นอย่าง แร่ธาตุสังกะสี (แร่
Zinc) ให้มากขึ้นในช่วงนี้ เพราะจะช่วยผ่อนคลายอาการซึมเศร้า
หดหู่ให้น้อยลงได้
ท้องอืด-ตัวบวม-เต้านมคัด
: ช่วงมีประจำเดือนสาวๆ หลายคนอาจรู้สึกคัดตึงบริเวณหน้าอก
และหน้าท้องก็จะดูยื่นๆ ขึ้นจนสังเกตได้ บางรายอาจดูบวมน้ำไปทั้งตัวและมีน้ำหนักขึ้นด้วย
วิธีแก้…
ทานเกลือและอาหารเค็มให้น้อยลง ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3
ครั้ง ครั้งละประมาณ 20 นาที เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและขับน้ำส่วนที่เกินออกไป
ทานอาหารจำพวกโปรตีนและไฟเบอร์สูง ๆ จะช่วยให้หน้าอกกระชับขึ้น
หากสาวคนไหนชอบดื่มกาแฟและแอลกอฮอล์ งดไปได้ในช่วงนี้จะดีมากๆ
มีสิว
: กับบางรายก็จะมีสิวเห่อขึ้นบนใบหน้า
หรือแผ่นหลังช่วงมีประจำเดือน นั่นเกิดจากการผันแปรของฮอร์โมนเพศ
วิธีแก้…
งดทานอาหารรสจัด หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ บุหรี่ น้ำอัดลม
และสารกระตุ้นทุกชนิดควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และรักษาความสะอาดให้มากขึ้น
แม้ช่วงนี้จะหยิบจับอะไรไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรง หรือขี้เกียจไปบ้างก็ต้องฝืนใจทำ
ดีกว่ามานั่งกลุ้มใจรักษากันทีหลัง
อาการหลักๆ อีกอย่างที่สาวๆ
ส่วนมากเป็นกันประจำทุกเดือน คือ ปวดท้อง
(เมนส์) : ซึ่งเกิดจากการบีบเกร็งตัวของมดลูก
เพื่อช่วยในการขับของเสียออกสู่ร่างกาย
วิธีแก้…
1. ถ้าปวดท้องแบบไม่ร้ายแรงนักแต่ยังต้องทำกิจกรรมประจำวันต่อ
: เพียงทานยาพารา เซตามอนสักเม็ดก็น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดี
2. ปวดท้องร้ายแรงจนทนไม่ไหว
: หาซื้อยา Ponstan
จากร้านขายยาทั่วไป ซึ่งเป็นยาที่มีฤทธิ์ต้าน Prostaglandins
ตัวก่อให้เกิดอาการปวด บีบเกร็ง ก็จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นได้
3. หรือถ้าไม่อยากทานยา
ก็ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบที่หน้าท้อง หรือใช้แผ่นบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
(หาซื้อได้ตามร้านขายยา) อาการก็จะดีขึ้น
4. ไม่ทานน้ำเย็น
5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
อาการต่างๆ เหล่านี้ เป็นเพียงอาการชั่วคราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่สาวๆ
มีประจำเดือนเท่านั้น หากพบว่าตัวเองมีอาการแบบไหนและรู้จักการรับมือที่ถูกวิธี
ประกอบกับการทำให้คนรอบข้างเข้าใจ เชื่อว่าสาวๆ ทุกคน
คงผ่านสารพันปัญหาดังกล่าว และกลับมาเป็นสาวเริ่ดเหมือนเดิมได้สบายๆ
สวัสดีครับ/ค่ะ! ผม/ดิฉันเป็นหมอที่เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์ครับ/ค่ะ ประสบการณ์ของผม/ดิฉันเกี่ยวข้องอย่างแน่นหนากับความตั้งใจในการช่วยเหลือคน และผม/ดิฉันได้ค้นพบทางที่จะใช้พรสวรรค์ทางภาษาของผม/ดิฉันในการทำเช่นนั้น ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของผม/ดิฉันได้เปิดโอกาสให้ผม/ดิฉันไม่เพียงแต่ทำงานกับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังแบ่งปันความรู้และข้อมูลผ่านการเขียนบทความข่าวสาร
ผม/ดิฉันชื่อ Ananda Niran (อนันดา นิรันดร์) และการเดินทางในวงการแพทย์ของผม/ดิฉันเริ่มต้นมานานแล้ว ผม/ดิฉันได้รับการศึกษาที่มหิดลศาสตร์ และตั้งใจที่จะให้ความสุขและความเจริญสบายในสุขภาพกับผู้ป่วย ประสบการณ์การทำงานของผม/ดิฉันรวมถึงการปฏิบัติงานในหลากหลายสถานบริการทางการแพทย์ ที่นั่นผม/ดิฉันมีหน้าที่วินิจฉัย รักษา และดูแลผู้ป่วยที่มีโรคหลากหลาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ผม/ดิฉันเข้าใจว่าสิ่งสำคัญไม่ได้เพียงแค่การช่วยเหลือผู้ป่วยแต่เพิ่มเติมด้วยการกระจายข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มคนใหญ่ ในโลกที่มีข้อมูลทางการแพทย์มากมาย ผม/ดิฉันตัดสินใจที่จะเข้าร่วมมีส่วนร่วมโดยใช้ความรู้และทักษะทางภาษาของผม/ดิฉัน จึงเริ่มเขียนบทความข่าวสารเกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในการแพทย์ โรคต่าง ๆ การป้องกัน และรูปแบบการดำเนินชีวิต
ความหลงไหลในการเขียนช่วยให้ผม/ดิฉันสามารถอธิบายคำศัพท์และความคิดทางการแพทย์ที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ผม/ดิฉันพยายามให้ความสำคัญและรับผิดชอบต่อทุกบทความ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีประโยชน์ ที่สามารถช่วยเหลือคนในการดูแลสุขภาพของตน
พลังประสิทธิ์ของผม/ดิฉันคือที่ทำให้ข้อมูลทางการแพทย์เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนใส่ใจกับความเจริญสุขของตนเอง บทความข่าวสารทุกเรื่องเป็นโอกาสที่จะแบ่งปันความรู้และช่วยเหลือคนที่กำลังมองหาข้อมูลทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ นี่คือเสถียรภาพของผม/ดิฉัน และผม/ดิฉันภาคภูมิใจที่สามารถให้ความช่วยเหลือและแรงบันดาล
ใจในโลกของสายการแพทย์นี้ได้