ตาปลาทูน่าต้มเผือก – ร้านริมเล-บ่อแร่, ตาปลาทูน่า, เมนูอาหาร, ภูเก็ต

ตาปลาทูน่าต้มเผือก

      หากคุณกำลังเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหาเหล่านี้ ความจำเลอะเลือน ลืมโน่นลืมนี้บ่อย ๆ คิดอะไรก็ไม่ออก สมองไม่โลดแล่น หรือมีปัญหาริ้วรอยทั้งก่อนวัยและตามวัย ฯลฯ…ขอแนะนำให้คุณพบกับสุดยอดอาหารแห่งการแก้ปัญหาทั้งหมด นั่นคือ…”ตาปลาทูน่าต้มเผือก” จากร้านริมเล-บ่อแร่

      ไม่ผิดค่ะ…ตาปลาทูน่าที่หลายคนมองเป็นเมนูแปลกและไม่กล้าลิ้มลองนี่แหละ เป็นหนึ่งในเมนูยอดฮิตของชาวเกาหลีและญี่ปุ่นที่นิยมซื้อหามารับประทาน เพราะนอกจากจะอุดมไปด้วย DHA (Docosahexaenoic acid) ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพความจำของสมองแล้ว วุ้นใส ๆ ที่อยู่ภายในเบ้าตากลม ๆ นี้ ยังเต็มไปด้วยสารคอลลาเจนที่คนทั่วโลกตามหา เพราะมันสามารถผลักริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าให้หายไปและเรียกคืนความสดใสแบบวัยหนุ่มสาวให้กลับมาอีกครั้ง โดยหากกินแบบสไตล์เกาหลีจะผสมกับเหล้าโซจู ยกกระดกเป็นช็อท ๆ แต่หากกินแบบสไตล์ญี่ปุ่นจะนิยมทำเป็นเมนูนึ่งซีอิ๊ว

      คุณนิมิตร เอกวานิช เจ้าของร้านริมเล-บ่อแร่ กล่าวถึงที่มาของตาปลาทูน่า ว่า “ทางร้านจะสั่งมาสด ๆ จากบริษัทจัดจำหน่ายปลาทะเลน้ำลึกรายใหญ่ โดยเขาจะรับปลามาจากเรือประมงของไต้หวันและอินโดฯ บางส่วนที่มาเทียบท่าในภูเก็ต ซึ่งปกติจะจัดส่งให้กับร้านอาหารเกาหลีและญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ เท่านั้น ผมกับพ่อครัวเลยคิดว่าเราน่าจะนำมาทำเป็นเมนูอาหารไทยอย่างแกงส้มหรือต้มเผือกได้ ตาปลาทูน่าเลยเป็นเมนูพิเศษที่หารับประทานในภูเก็ตได้เฉพาะร้านริมเล-บ่อแร่ที่เดียว”

      เมนูตาปลาทูน่าต้มเผือก เริ่มต้นด้วยการเตรียมพระเอกเด่น อย่าง ตาปลาทูน่า ซึ่งเป็นปลาทูน่าน้ำลึกที่มีขนาดตัวประมาณ 40-50 กิโลกรัม นำมาล้างให้สะอาด จากนั้นนำไปนึ่งบนน้ำต้มเดือดที่อัดเน้นไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด

      “เทคนิคการนึ่งตาปลาไม่ให้มีกลิ่นคาว คือ ต้องให้น้ำต้มเดือดพุ่งเป็นไอน้ำก่อน แล้วจึงใส่เครื่องปรุงสมุนไพรที่เตรียมไว้ แล้วนำตาปลาทูน่าที่ล้างสะอาดแล้วไปนึ่งบนน้ำต้มเดือดนั้นประมาณ 10 นาที” เชฟเคี้ยง (คุณประกาศศักดิ์ ไตรยสุทธิ์) กล่าว

      จากนั้นเข้าสู่การปรุงน้ำซุปต้มเผือก โดยเริ่มต้นจากการนำน้ำสต๊อกผักมาตั้งไฟให้เดือด ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทยดำ ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา เกลือป่น น้ำตาลทราย และเผือกหั่นชิ้นที่ทอดเรียบร้อยแล้ว ต้มให้ทุกอย่างเข้ากัน แล้วจึงนำตาปลาทูน่าที่นึ่งเตรียมไว้ลงไปต้มรวมกันอีกประมาณ 10 นาที เป็นอันเสร็จขั้นตอน

      กลิ่นของน้ำปรุงรสสูตรพิเศษที่ได้จากน้ำมันงาและกระเทียม หอมแตะปลายจมูกตั้งแต่แรกเสิร์ฟ เมื่อลิ้มลองก็สัมผัสถึงรสชาติน้ำซุปที่เข้มข้ม กลมกล่อม เค็มนิด ๆ หวานหน่อย ๆ ส่วนเนื้อตาปลาทูน่าก็อร่อยล้ำไม่แพ้กัน โดยหากจะให้บรรยายแล้วนึกภาพตามได้ง่าย ๆ ก็จะมีลักษณะเนื้อและรสชาติคล้ายกับขาหมูต้มพะโลที่ติดมันและเต็มไปด้วยเอ็นนุ่มหนึบ เคี้ยวไปแต่ละคำ รสหวานของปลาทะเลน้ำลึกและน้ำซุปต้มเผือกที่แทรกเข้าสู่เนื้อด้านในก็จะทะลุออกมา เป็นรสชาติความอร่อยที่เข้ากันได้ดี โดยเฉพาะเมื่อรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ และน้ำจิ้มรสเด็ด

      เป็นสุดยอดเมนูอาหารที่นอกจากอุดมไปด้วยคุณค่าของแหล่ง DHA และคอลลาเจนธรรมชาติ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ผู้ใหญ่รับประทานได้ เด็กรับประทานดีแล้ว แถมยังอร่อยแปลกไม่เหมือนใครจริง ๆ …